พาเปิดประวัติ Omega พร้อมแชร์นาฬิกา Omega รุ่นยอดนิยม

SPEEDMASTER MOONWATCH PROFESSIONAL

เปิดประวัตินาฬิกา Omega มีที่มาอย่างไรจนเป็นที่นิยมในปัจจุบัน นาฬิกา Omega รุ่นยอดนิยมเป็นหนึ่งในคอลเลกชันของสะสมที่นักลงทุนให้ความสนใจ เพราะนาฬิกา Omega ของแท้นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องความหรูหรา มีความทนทาน มีคุณภาพสูง และยังเป็นนาฬิกาแบรนด์เดียวที่ผ่านบททดสอบของ NASA อีกด้วย ส่งผลให้นาฬิกา Omega ของแท้ ราคาไม่ตกแถมเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดนาฬิกามือสองของแท้ แต่ก่อนจะเป็นเจ้าของนาฬิกา Omega รุ่นยอดนิยมสักเรือน Timethai by Tag ขอพาทุกคนย้อนไปดูประวัตินาฬิกา Omega หนึ่งในแบรนด์นาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ว่ามีความเป็นมาอย่างไร ทำไมใคร ๆ ถึงหลงรักนาฬิกาแบรนด์นี้ มาหาคำตอบไปพร้อมกัน ทำความรู้จัก Omega นาฬิกาแบรนด์ดังระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ Omega เป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาหรูที่มีชื่อเสียงและมีประวัติยาวนาน โดยเรื่องราวของนาฬิกา Omega ของแท้ได้เริ่มต้นขึ้นในปี 1848 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อ Louis Brandt ช่างทำนาฬิกาวัย 23 ปี เจ้าของบริษัทผลิตนาฬิกาพกที่มีคุณภาพสูงได้พัฒนานาฬิกาให้มีความเที่ยงตรงและแม่นยำที่สุด แม้ Louis Brandt จะจากไปอย่างสงบในปี 1879 ลูกชายของเขาก็ได้เข้ามาสานต่อกิจการพร้อมช่วยกันพัฒนากลไกนาฬิกาที่ชื่อว่า Omega ซึ่งเป็นกลไกที่มีความแม่นยำสูงและสามารถปรับแต่งได้ง่าย กลไกนี้มีชื่อเสียงมากจนบริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป็น Omega Watch Co. ในที่สุด และความสำเร็จครั้งนั้นยังทำให้แบรนด์ Omega เติบโตและเป็นที่รู้จักมากขึ้น จากการได้รับรางวัลมากมายในการแข่งขันด้านความแม่นยำของนาฬิกาในปี 1903 หรือการได้รับเลือกให้เป็นผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ลอสแอนเจลิส เมื่อปี 1932 และนั่นคือจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่าง Omega กับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้งานนาฬิกาของผู้คน แบรนด์ Omega ยังได้พัฒนานวัตกรรมที่เพิ่มความแม่นยำและความทนทานของนาฬิกา จนทำให้นาฬิกา Omega ถูกยกให้เป็นหนึ่งในนาฬิกามือสองของแท้ที่ควรค่าแก่การเก็บสะสม เปิดรายชื่อนาฬิกา Omega ของแท้ที่สร้างชื่อเสียงให้แบรนด์ Omega Speedmaster เป็นนาฬิกาเรือนแรกที่ถูกสวมใส่บนดวงจันทร์โดยนักบินอวกาศ Buzz Aldrin ในภารกิจ Apollo 11 ปี 1969 จนได้รับสมญานามว่า Moonwatch Omega Seamaster เป็นที่รู้จักในฐานะนาฬิกาดำน้ำที่มีความทนทานและแม่นยำ และยังเป็นนาฬิกาที่ James Bond ใส่ในภาพยนตร์หลายภาคอีกด้วย Omega Constellation เป็นนาฬิกาที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Master Chronometer โดย METAS มีความแม่นยำสูงและทนทาน Omega De Ville มาพร้อมกลไก Co-Axial ที่เข้ามาช่วยลดการเสียดสีของชิ้นส่วนภายในนาฬิกา ทำให้กลไกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น แชร์นาฬิกา Omega รุ่นยอดนิยม 10 รุ่น ที่ควรค่าแก่การเก็บสะสม เพื่อให้การเริ่มต้นสะสมนาฬิกา Omega ของแท้มือสองเป็นเรื่องง่ายของนักลงทุนมือใหม่ ในบทความนี้ Timethai by Tag ได้คัดสรรนาฬิกา Omega รุ่นยอดนิยมและควรค่าแก่การสะสมมาฝาก ขอบอกว่านาฬิกามือสองของแท้ Omega ต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ส่วนจะมีรุ่นไหนบ้างมาดูกัน นาฬิกา Omega รุ่น Speedmaster Moonwatch Professional Co-Axial Master Chronometer Chronograph 42 mm Omega Speedmaster Moonwatch Professional Co-Axial Master Chronometer Chronograph 42 mm เป็นหนึ่งในนาฬิกา Omega รุ่นยอดนิยมที่โด่งดังของแบรนด์จากภารกิจการเดินทางขึ้นไปยังดวงจันทร์ โดยนาฬิกา Omega ของแท้รุ่นนี้มาพร้อมหน้าปัดสีดำประดับคริสตัล และหน้าปัดขนาดเล็ก 3 หน้าปัด แสดงเวลาเป็นวินาที 30 นาที และ 12 ชั่วโมง แต่จุดเด่นของนาฬิกา Omega ยังคงเป็นกลไกการทำงาน Calibre 1861 ซึ่งเป็นระบบไขลานในตำนานที่ถูกใช้งานบนดวงจันทร์นั่นเอง นาฬิกา Omega รุ่น Seamaster Diver 300M Co-Axial Master Chronometer 42mm หากคุณกำลังมองหานาฬิกา Omega สำหรับผู้ชายจากร้านรับซื้อนาฬิกา Omega มือสองอยู่ ขอแนะนำ Omega Seamaster Diver 300M Co-Axial Master Chronometer 42mm ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักดำน้ำและผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาหรูมาอย่างยาวนาน ด้วยตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสสตีลมาพร้อมกรอบเซรามิกสีน้ำเงินที่เคลือบด้วยสารกันน้ำ หน้าปัดสลักเป็นรูปคลื่นทะเล ขณะที่ตัวเลขบอกวันที่อยู่ตรงเลข 6 นาฬิกาของหน้าปัด Diver 300M ขณะที่ตัวเข็มนาฬิกามีการเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova ทำให้สามารถอ่านค่าเวลาได้ชัดเจนในสภาพแสงน้อย นาฬิกา Omega รุ่น Seamaster Aqua Terra 150M Co‑Axial Master Chronometer 41mm นี่เป็นนาฬิกา Omega ของแท้ในคอลเลคชันเกี่ยวกับทะเล มาพร้อมหน้าปัดสีน้ำเงินซันบรัชลายไม้สัก และมีขอบคลื่นที่ด้านหลังมีหน้าต่างวันที่ตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา ส่วนเข็มนาฬิกาและหลักชั่วโมงถูกชุบด้วยโรเดียม ทำให้เรืองแสงตอนกลางคืน นอกจากนี้ยังขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานแบบ Co-Axial ซึ่งได้รับการยอมรับโดย METAS ว่ามีประสิทธิภาพสูงที่สุด และด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูคลาสสิก จึงเข้ากับการแต่งตัวได้ง่าย รวมถึงใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ใครมองหานาฬิกา Omega รุ่นยอดนิยมไว้สะสมหรือสวมใส่ในชีวิตประจำวันอยู่ ไม่ควรมองข้ามนาฬิกา Omega รุ่นนี้ นาฬิกา Omega รุ่น Seamaster Diver 300M Co‑Axial Master Chronometer Chronograph 44mm สำหรับนาฬิกา Omega ขนาด 44mm เรือนนี้ ทำมาจากสแตนเลสสตีลคุณภาพสูงพร้อมด้วยเซรามิกที่มีความทนทานและเงางาม รวมถึงมีลวดลายคลื่นที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่น Seamaster ขณะที่ตัวเข็มนาฬิกามีการเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova ทำให้สามารถอ่านค่าเวลาได้ชัดเจนในทุกสภาพแสง นอกจากนี้ยังมีหน้าปัดย่อยสำหรับการจับเวลาที่ตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา มาช่วยให้ผู้สวมใส่อ่านค่าและการจับเวลามีความชัดเจนและสะดวกมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญนาฬิกา Omega ของแท้มือสองรุ่นนี้สามารถในการกันน้ำได้ลึกถึง 300 เมตรอีกด้วย นาฬิกา Omega รุ่น Speedmaster Dark Side Of The Moon Chronograph 44.25mm Omega Speedmaster Dark Side Of The Moon Chronograph 44.25mm เป็นนาฬิกาทรงสวยที่สะท้อนความเป็นอวกาศได้เป็นอย่างดี ด้วยมีหน้าปัดสีดำด้านมีการออกแบบที่ให้ความรู้สึกหรูหราและล้ำสมัย พร้อมกับการเน้นสีขาวและสีเหลืองเพื่อการอ่านค่าที่ชัดเจน ขณะที่ตัวเรือนขนาด 44.25 มม. ทำจากเซรามิกสีดำที่มีความทนทานต่อการขีดข่วนและน้ำหนักเบา มีฟังก์ชันโครโนกราฟที่ใช้งานง่าย จึงทำให้นาฬิการุ่นนี้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาหรูและนักสะสม นาฬิกา Omega รุ่น Speedmaster Racing Co‑Axial Master Chronometer Chronograph 44.25mm เป็นนาฬิกา Omega ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งรถ ทำให้นาฬิกาขนาด 44.25mm ดูสปอร์ตและทันสมัย ส่วนวัสดุที่ใช้ทำตัวเรือนคือสแตนเลสสตีลคุณภาพสูงที่ทนทานและมีความเงางาม พอประกบคู่กับกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่ทนทานต่อการขีดข่วนและเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งด้านในและด้านนอก จึงช่วยให้อ่านค่าชัดเจนในทุกสภาพแสง ทำให้เป็นนาฬิกาที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแข่งรถและชอบการสะสมนาฬิกาหรู นาฬิกา Omega รุ่น Seamaster Aqua Terra 150M Co‑Axial Master Chronometer GMT Worldtimer 43mm  Omega Seamaster Aqua Terra 150M Co‑Axial Master Chronometer GMT Worldtimer 43mm เป็นนาฬิกาที่มีลักษณะเฉพาะตัวที่โดดเด่นด้วยการออกแบบที่หรูหราและฟังก์ชันการแสดงเวลาหลายเขตเวลา ขนาดตัวเรือนที่ใหญ่และวัสดุคุณภาพสูง กลไก Co-Axial Master Chronometer ที่แม่นยำและทนทาน มีฟังก์ชัน GMT และ Worldtimer […]

แนะนำนาฬิกา Tag Heuer รุ่นยอดนิยมของผู้ชาย ผู้หญิง

TAG HEUER AQUARACER PROFESSIONAL 200 DATE

นาฬิกา Tag Heuer รุ่นยอดนิยม ผู้ชาย ผู้หญิง ที่สายเก็บสะสมควรมี ถ้าพูดถึงการช็อปปิงที่สวิตเซอร์แลนด์ สิ่งที่สายสะสมหรือนักลงทุนให้ความสนใจ คงไม่พ้นนาฬิกา Tag Heuer รุ่นยอดนิยมหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในด้านดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยนาฬิกา Tag Heuer ผู้ชายและนาฬิกา Tag Heuer ผู้หญิงถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างวิจิตรบรรจง ทั้งได้ผสมผสานกลไกการทำงานแบบแม่นยำเข้าไป รวมถึงนาฬิกา Tag Heuer ราคาจับต้องได้ ทำให้นาฬิกา Tag Heuer ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน จึงไม่แปลกที่หลายคนอยากมีนาฬิกา Tag Heuer ไว้ในครอบครองซักเรือน ดังนั้นในบทความนี้ Timethai by Tag จะพาทุกคนไปดูว่ามีนาฬิกา Tag Heuer รุ่นยอดนิยม รุ่นไหนน่าสะสม รวมถึงแนะนำนาฬิกา Tag Heuer ผู้ชายและนาฬิกา Tag Heuer ผู้หญิง เพื่อตัดสินใจได้ง่ายขึ้นหากสนใจเลือกซื้อนาฬิกาแบรนด์นี้ที่ร้านขายนาฬิกามือสอง ชี้เป้านาฬิกา Tag Heuer รุ่นยอดนิยมราคาน่าซื้อเก็บไว้เก็งกำไร สำหรับใครที่สนใจลงทุนกับนาฬิกา Tag Heuer แต่ไม่รู้ว่านาฬิกา Tag Heuer ผู้ชาย และนาฬิกา Tag Heuer ผู้หญิง รุ่นไหนที่น่าซื้อมาครอบครอง ตาม Timethai by Tag มาดูคำตอบกันว่า มีนาฬิกา Tag Heuer มือสองรุ่นอะไรบ้าง? ที่ควรซื้อไว้สวมใส่เองหรือไว้สะสมเก็งกำไร นาฬิกา Tag Heuer ผู้ชาย รุ่นไหนน่าซื้อมาสะสม Tag Heuer เป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาที่ผู้ชายหลายคนอยากมีไว้สวมใส่ แต่การเลือกนาฬิกา Tag Heuer ผู้ชายให้ตรงตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนาฬิกา Tag Heuer ผู้ชายแต่ละรุ่นมีฟังก์ชันและการออกแบบที่ต่างกัน เพื่อตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเราจะมาแนะนำนาฬิกา Tag Heuer รุ่นยอดนิยมสำหรับผู้ชายที่ไม่ว่าจะซื้อเรือนไหนมาก็คุ้มค่า แถมเหมาะสะสมไว้เก็งกำไรในระยะยาว Tag Heuer Carrera Chronograph Tag Heuer Carrera Chronograph เป็นนาฬิกา Tag Heuer ผู้ชาย ตัวเรือนขนาด 39 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยหน้าปัดทรงกลมเกลี้ยง สีน้ำเงิน Deep Blue มาร์คเกอร์บอกเวลาสีเงิน และฝาหลังใสทำให้มองเห็นกลไกการทำงานได้อย่างชัดเจน ขณะที่สายนาฬิกาเป็นสายหนัง ทำให้นาฬิกา Tag Heuer Carrera Chronograph เหมาะหยิบมาสวมใส่ในทุกโอกาส Tag Heuer Monaco สำหรับ Tag Heuer Monaco เป็นหนึ่งในคอลเลกชัน Monaco ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการแข่งรถ ทำให้นาฬิกา Tag Heuer ผู้ชายรุ่นนี้ดีไซน์อันคลาสสิกแต่ยังคงความล้ำสมัยในเวลาเดียวกัน โดยเอกลักษณ์อันโดดเด่นอยู่ที่หน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส่วนตัวเรือนทำจากไทเทเนียมสีดำ มีเส้นบอกเวลาสีฟ้าเทอร์ควอยซ์สดใส เข็มวินาทีสีแดงสดใส และมาพร้อมกรอบที่ป้องกันรอยขีดข่วน รวมถึงกันน้ำลึกถึง 100 เมตร Tag Heuer Aquaracer Professional 300 Aquaracer Professional 300 เป็นหนึ่งในซีรีส์สุดคลาสสิกของแบรนด์ Tag Heuer โดยนาฬิการุ่นนี้มีความพิเศษที่สามารถใส่ดำน้ำได้ เพราะกันน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร อีกทั้งตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสสตีลขนาด 39 มิลลิเมตร หน้าปัดสีน้ำเงิน Deep Blue มีลายเซาะร่องพลิ้วไหว เข็มและเครื่องหมายเรืองแสงเพื่อการมองเห็นในสภาพแสงน้อย และขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติ Calibre 5 ที่แม่นยำสูง Tag Heuer Formula 1 Tag Heuer Formula 1 เป็นคอลเลกชันนาฬิกาแข่งรถที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนักแข่งระดับโลก ทำให้นาฬิกา Tag Heuer ผู้ชายรุ่นนี้เป็นนาฬิกาสปอร์ตลำลองที่ยังคงความหรูหราไว้ครบถ้วน แต่ Tag Heuer Formula 1 ยังมีความพิเศษที่น่าสนใจ อย่างหน้าปัดทำจาก Sapphire Crystal ป้องกันรอยขีดข่วน และมี Tachymeter ที่ใช้วัดความเร็วได้สูงสุด 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมถึงขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ Calibre 6 และกันน้ำลึกได้ถึง 200 เมตร Tag Heuer Autavia Tag Heuer Autavia มาพร้อมหน้าปัด Sapphire Crystal ป้องกันรอยขีดข่วน และโดดเด่นด้วยฟังก์ชันตัวนับโครโนกราฟติดตามวินาที ชั่วโมง นาที และฟังก์ชัน Flyback ที่ช่วยรีเซ็ตการจับเวลาให้กลับมาเป็นศูนย์ได้ทันทีอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้สายหนังจระเข้สีดำยังสามารถถอดเปลี่ยนสายได้อย่างง่ายดาย ทำให้คุณสามารถเปลี่ยนสไตล์ได้ง่ายและใช้งานได้หลากหลาย Tag Heuer Link คอลเลกชัน Link จากแบรนด์ Tag Heuer มาพร้อมหน้าปัด Sapphire Crystal ป้องกันรอยขีดข่วน สายผลิตจากสเตนเลสสตีล มีฟังก์ชัน GMT ตัวบ่งชี้ข้างขึ้นข้างแรม รวมถึงขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ Calibre 5  ที่แม่นยำสูง ส่วนกำลังสำรองอยู่ที่ 38 ชั่วโมง ที่สำคัญ Tag Heuer Link สามารถกันน้ำ 100 เมตร ทำให้นาฬิกา Tag Heuer ผู้ชายเป็นอีกเรือนที่เหมาะหยิบมาใส่ในทุกโอกาส Tag Heuer Carrera Date สำหรับ Tag Heuer Carrera Date รุ่นนี้เป็นหนึ่งในคอลเลกชัน Carrera นอกจากขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ Calibre 7 นาฬิกายังมาพร้อมหน้าปัดสีเขียวพาสเทลเมทาลิก เส้นและเข็มบอกเวลาสีทอง ตัดด้วยสายนาฬิกาสเตนเลสสตีล กันน้ำลึกถึง 50 เมตร และสำรองพลังงานได้ถึง 56 ชั่วโมง ทำให้นาฬิกา Tag Heuer ผู้ชายเรือนนี้สวมใส่ได้ทุกวันและเหมาะกับทุกสถานการณ์ Tag Heuer Aquaracer หากคุณชื่นชอบนาฬิกาแนวสปอร์ต แต่ยังคงความมีสไตล์ นาฬิกา Tag Heuer Aquaracer ตอบโจทย์มาก เพราะนาฬิกา Tag Heuer รุ่นยอดนิยมสำหรับผู้ชายรุ่นนี้ มาพร้อมขอบหน้าปัดแบ่งสองสี หน้าปัดแบบเซาะร่องแนวนอนเพิ่มมิติ เข็มและตัวบอกเวลาเรืองแสงในที่มืด ทำให้อ่านค่าได้ง่ายไม่ว่าจะในเวลากลางวันหรือกลางคืน ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ Calibre 7 และกันน้ำลึกถึง 300  เมตร จึงสามารถสวมใส่เล่นน้ำหรือดำน้ำได้ นาฬิกา Tag Heuer ผู้หญิง รุ่นไหนที่สาว ๆ นิยมซื้อเก็บสะสม สาว ๆ คนไหนที่กำลังมองหานาฬิกาแบรนด์เนมไว้เสริมความมั่นใจหรือเสริมลุคการแต่งตัวให้ดูดี หรือเก็บสะสมไว้ทำกำไรในอนาคต นาฬิกา Tag Heuer ผู้หญิงถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ นอกจากบ่งบอกถึงความเป็นตัวเอง ยังสามารถนำนาฬิกา Tag Heuer ไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดกับร้านขายนาฬิกามือสองได้อีกด้วย Tag Heuer Aquaracer Diamond-Accented – Ref WAY1414.BA0920 นาฬิกา Tag Heuer Aquaracer Diamond-Accented มาพร้อมตัวเรือนทรงกลม หน้าปัดขนาด 27 มิลลิเมตร ล้อมรอบด้วยหน้าปัดมุกสีขาว ขณะที่เครื่องหมายบอกชั่วโมงยังใช้เพชรมาประดับ ทำให้นาฬิกา Tag Heuer ผู้หญิงเรือนนี้มีความสวยงามและหรูหราอย่างลงตัว ส่วนสายข้อมือและตัวเรือนทำจากสเตนเลสสตีล นอกจากนี้คุณสาว ๆ ยังสามารถใส่ได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลขณะล้างมือ เพราะรุ่นนี้สามารถกันน้ำได้ถึง 300 เมตรเลยทีเดียว Tag Heuer Carrera – […]

อัปเดตก่อนใคร! เปิดตัว Rolex รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2024

เปิดตัว Rolex รุ่นใหม่

อัปเดตนาฬิกา Rolex รุ่นใหม่ปี 2024 จากงาน Watches & Wonder เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้กับนาฬิกา Rolex รุ่นใหม่ของปี 2024 ในงาน Watches & Wonder มหกรรมการจัดแสดงนาฬิกาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ได้รวบรวมคนในวงการนาฬิกาอย่างล้นหลามเพื่อจัดแสดงถึงนวัตกรรมของนาฬิกา ซึ่งในบทความนี้ Timethai by Tag ร้านนาฬิกามือสอง ที่ดูแลให้คำปรึกษาเกี่ยวกับนาฬิกาอย่างครบวงจร ได้รวบรวมนาฬิกา Rolex รุ่นใหม่ ปี 2024 ให้ทุกคนได้อัปเดตเทรนด์และสเปคของ Rolex 2024 สำหรับคนที่สนใจและต้องการนาฬิกา Rolex รุ่นใหม่ล่าสุดมาไว้ในครอบครอง แชร์ Rolex รุ่นใหม่ พร้อมจุดเด่นที่น่าสนใจแต่ของละรุ่น Rolex รุ่นใหม่นับว่าเป็นไฮไลต์ของงาน Watches & Wonder 2024 ที่ทุกคนรอคอยเลยก็ว่าได้ ในปีนี้ Rolex ได้เปิดตัวมาถึง 6 รุ่น ซึ่งดีไซน์ส่วนใหญ่ยังเน้นไปที่ความเท่เมื่อสวมใส่ แต่ก็ยังคงความพรีเมียมและเรียบหรู บอกเลยว่าแฟนคลับนาฬิกา Rolex ไม่ควรพลาดอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากใครอยากปล่อย ซื้อขาย หรือแลกเปลี่ยนนาฬิกา Rolex มือสอง Timethai by Tag ก็มีบริการรับซื้อนาฬิกา Rolex ที่คุณมั่นใจได้อย่างแน่นอนว่าเป็นของแท้ พร้อมทั้งมีบริการดูแลให้คำปรึกษาอย่างครบวงจรอีกด้วย GMT Master II เริ่มต้นกันที่ Rolex รุ่นใหม่เรือนแรกอย่าง Rolex GMT-Master II ที่ต่อยอดโทนสีเข้มขรึมมาจากรุ่นก่อนหน้าในปี 2023 มาพร้อมกับขอบหน้าปัด Cerachrom จากเซรามิกสีเทาและสีดำ ตัวเรือนรังสรรค์จาก Oystersteel ซึ่งเป็นอัลลอยที่ผลิตเป็นพิเศษสำหรับ Rolex เท่านั้น โดยมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและการกระแทกสูง รุ่นนี้มีสายนาฬิกาให้เลือก 2 แบบ คือ สายนาฬิกา Oyster และสายนาฬิกา Jubilee Rolex รุ่นใหม่นี้มีจุดเด่นบนหน้าปัดคือมีชื่อรุ่น GMT-Master II เป็นสีเขียวเข้ากับเข็มแสดงเวลา Day-Date สำหรับรุ่น Day-Date นั้น Rolex ได้มีให้ออกมาให้เลือกตามความชื่นชอบของแต่ละบุคคลถึง 4 แบบ ดังนี้ Day-Date 40 รุ่น Everose Gold 18 กะรัต Day-Date 40 รุ่นนี้มาพร้อมกับขนาดตัวเรือน 40 มม. หน้าปัดสีเทาอมน้ำเงินออมเบร มีการไล่เฉดสีอย่างประณีต จากสีโทนสว่างตรงกลางไปสู่สีโทนมืดตรงขอบ รวมถึงเลขโรมันแบบแยกส่วนทรงเหลี่ยมและเครื่องหมายบอกชั่วโมงทรงเหลี่ยม Pink Gold 18 กะรัต Day-Date 40 รุ่น ทองคำขาว 18 กะรัต Rolex รุ่นใหม่ Day-Date 40 ทำขึ้นจากทองคำขาว 18 กะรัต พร้อมหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาว ซึ่งเป็นครั้งแรกของรุ่นนี้ เปลือกหอยมุกเนื้อละเอียดและหายากนี้สวยงามเหมือนไฟประกายที่แสงสว่างโดดเด่น ด้วยพื้นผิวที่แตกต่างกัน ทำให้ดูเหมือนเกลียวเมฆที่ซ้อนทับกัน และสะท้อนแสงอย่างสวยงามเมื่อเจอแสงสว่าง เครื่องหมายบอกชั่วโมงประดับเพชรบาเก็ต 10 ตำแหน่งเพื่อเพิ่มความแวววาวให้กับนาฬิกาได้อย่างโดดเด่น Day-Date 36 รุ่น ทองคำ 18 กะรัตโฉมใหม่ Day-Date 36 รุ่น ทองคำ 18 กะรัตโฉมใหม่ มาพร้อมกับตัวเรือนขนาด 36 มม. หน้าปัดเคลือบเงาสีขาว เลขโรมันแบบแยกส่วนทรงเหลี่ยมมุม และเครื่องหมายบอกชั่วโมงทรงเหลี่ยมมุม โดยเครื่องหมายบอกชั่วโมงเป็นแบบผิวเรียบเป็นเงาทำให้ดีไซน์ของ Rolex รุ่นใหม่นี้ดูเรียบง่ายสะอาดตา Day-Date 36 รุ่น Everose Gold 18 กะรัต Day-Date รุ่นนี้โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยหน้าปัดสีฟ้าเขียว ขอบตัวเรือนประดับด้วยเพชรทรงสี่เหลี่ยมคางหมู 60 เม็ด นับว่าเป็นครั้งแรกที่มีการใช้ขอบตัวเรือนลักษณะนี้มาใช้กับ Day-Date 36 PERPETUAL 1908 นาฬิกา Rolex รุ่นใหม่ อย่าง Perpetual 1908 ทำจาก วัสดุแพลทินัม 950 ที่มาพร้อมกับหน้าปัดสีไอซ์บลูที่เป็นเฉดสีเฉพาะ ตกแต่งด้วยลายเมล็ดข้าวที่ได้มาจากกระบวนการกิโยเช่ (Guillochage) ซึ่งเป็นกระบวนการกลึงแบบดั้งเดิม หน้าปัดเงาวาวประกอบกับงานฝีมือแสนประณีตที่มีความละเอียดอ่อน ตั้งแต่การออกแบบหน้าปัดจนถึงการเซาะร่องขอบตัวเรือน รวมถึงการตกแต่งขอบเข็มบอกนาทีด้วยลวดลายกิโยเช่อีกด้วย Deepsea 3900M Rolex Deepsea นับว่าเป็นนาฬิกา Rolex รุ่นใหม่อีกรุ่นที่เปิดตัวมาได้อย่างตื่นตาตื่นใจ เนื่องจากเป็นนาฬิกาดำน้ำระดับมืออาชีพ มาพร้อมกับตัวเรือนทองคำ ฝาหลังที่ทำจากไทเทเนียม RLX และหน้าปัดสีน้ำเงินกับวงแหวน Cerachrom เซรามิกสีน้ำเงิน เรียกได้ว่าสมกับเป็นนาฬิกาที่ดึงความโดดเด่นจากทะเลลึกมาดีไซน์เป็น Deepsea ได้อย่าลงตัว Cosmograph Daytona นาฬิกา Rolex รุ่นใหม่ Cosmograph Daytona มีดีไซน์ที่เน้นความหรูหรา ด้วยหน้าปัดเป็นเปลือกหอยมุกสีขาวและสีดำ ประดับขอบตัวเรือนด้วยเพชรเจียระไนเหลี่ยมเกสร 36 เม็ด ซึ่งรุ่นนี้มีหน้าปัด 2 สี คือสีขาวและสีดำ ในรุ่นหน้าปัดสีขาวจะใช้ส่วนแสดงเวลาขนาดเล็กสีดำ ส่วนรุ่นที่หน้าปัดสีดำจะใช้ส่วนแสดงเวลาขนาดเล็กสีขาว เรียกได้ว่านาฬิการุ่นนี้เปรียบเสมือนเครื่องประดับสุดหรูหราชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ Sky-Dweller (2 Model) นาฬิกา Rolex รุ่นใหม่ อีกรุ่นหนึ่งที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัวไม่แพ้กับรุ่นอื่น ๆ คือ Sky-Dweller ที่มาพร้อมกับสาย Jubilee ที่ข้อสายขัดเงาเรียบขนาดเล็กจะอยู่ตรงกลาง ส่วนข้อสายขัดเงาซาตินขนาดใหญ่จะอยู่ด้านนอก เพิ่มความมีมิติให้กับนาฬิกาเมื่อสวมใส่ โดดเด่นด้วยปฏิทินรายปีที่มีความแม่นยำ ที่สามารถแสดงวันที่ได้อย่างถูกต้องตลอดทั้งปี ซึ่งมีให้เลือก 2 สี ให้ผู้ชื่นชอบนาฬิกาได้เลือกให้ตอบโจทย์ความชื่นชอบของตัวเอง Sky-Dweller รุ่น Everose Gold 18 กะรัต มาพร้อมกับหน้าปัดสีเทาอมน้ำเงิน Sky-Dweller รุ่น ทองคำ 18 กะรัต มาพร้อมหน้าปัดสีขาวเข้ม สำหรับงาน Watches & Wonder ในปี 2024 นี้ เรียกได้ว่า Rolex เปิดตัวนาฬิกา Rolex รุ่นใหม่ ได้อย่างไม่สร้างความผิดให้กับวงการนาฬิกา ด้วยนาฬิกา Rolex 2024 ถึง 6 รุ่น โดยนาฬิกา Rolex รุ่นใหม่ทุกรุ่นนั้นมีความโดดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตอบโจทย์ความชื่นชอบเฉพาะบุคคลได้อย่างแน่นอน ซึ่งนาฬิกา Rolex รุ่นใหม่ล่าสุดยังไม่ละทิ้งความเท่ และเรียบหรูเมื่อสวมใส่ไว้ได้อย่างดี หากใครที่ต้องการซื้อ ขาย หรือแลกเปลี่ยนนาฬิกา Rolex อย่าลืมนึกถึง Timethai by Tag ร้านรับซื้อ Rolex และนาฬิกาแบรนด์เนมแท้ ที่พร้อมดูแลให้คำปรึกษาอย่างครบวงจร โดยผู้เชี่ยวชาญ

เช็คนาฬิกา Rolex แท้อย่างไร ให้ไม่มีคำว่าพลาด!

check rolex

รวมวิธีเช็คนาฬิกา Rolex แท้ บอกเลยว่ารู้ไว้ไม่มีพลาดแน่นอน! หลาย ๆ คนที่มีความสนใจอยากเข้ามาในวงการนาฬิกาแบรนด์เนม แต่อาจจะยังไม่ได้มีความช่ำชองในการตรวจสอบเช็คนาฬิกา Rolex แท้ปลอม ไม่รู้ว่ามีวิธีเช็คนาฬิกา Rolex ของแท้อย่างไรบ้าง? บอกเลยว่าเรื่องนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนาฬิกาแบรนด์หรูส่วนใหญ่นั้นมีมูลค่าที่ค่อนข้างสูง หากเราละเลยขั้นตอนการตรวจเช็ค Rolex แท้ปลอมไปอาจทำให้เสียเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์ได้ ดังนั้นภายในบทความนี้ ทาง Timethai by Tag จึงได้รวบรวมวิธีตรวจเช็ค Rolex ของแท้มาให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจก่อนที่จะเดินเข้าร้านนาฬิกามือสองไปช็อปกัน เพื่อที่จะได้สามารถทำการซื้อขายนาฬิกา Rolex แบรนด์หรูที่มีมูลค่าสูงกันได้อย่างมั่นใจ ลดความเสี่ยงที่จะถูกหลอกขายนาฬิกาปลอมให้ ซึ่งจะมีวิธีอะไรบ้างนั้น ตามไปอ่านภายในบทความนี้กันได้เลย มัดรวม 12 วิธีเช็คนาฬิกา Rolex แท้มาให้ รู้ไว้ไม่มีพลาด! ในการเลือกซื้อนาฬิกา Rolex มาสวมใส่ ไม่ว่าจะเพื่อเสริมสร้างสไตล์ เพิ่มรสนิยม แสดงให้เห็นถึงฐานะทางสังคม เพื่อเก็บสะสม หรือเพื่อลงทุนรับซื้อนาฬิกา Rolex มือสองไว้สำหรับเก็งกำไรในอนาคต บอกเลยว่าการตรวจเช็คนาฬิกา Rolex แท้นั้นเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากคุณละเลยขั้นตอนนี้ไปล่ะก็ นาฬิกา Rolex ที่คุณซื้อมาอาจเป็นของปลอมโดยที่คุณเองก็ไม่รู้ตัวก็ได้ ดังนั้นก่อนที่จะไปทำการเลือกซื้อนาฬิกา Rolex มือสองของแท้กัน เรามาดู 12  วิธีเช็คนาฬิกา Rolex ของแท้ที่ทาง Timethai by Tag ได้รวบรวมมาให้กันก่อนดีกว่า เพื่อที่จะได้สามารถตรวจสอบในเบื้องต้นกันได้ด้วยตนเอง เพิ่มความมั่นใจในการรับซื้อและลดโอกาสโดนโกงหรือหลอกขายนาฬิกา Rolex ปลอม ซึ่งวิธีเช็คนาฬิกา Rolex แท้ง่าย ๆ ด้วยตนเองมีดังนี้ 1. เช็คนาฬิกา Rolex แท้จากน้ำหนักของนาฬิกา วิธีแรกในการเช็ค Rolex แท้ก็คือการพิจารณาที่น้ำหนักของนาฬิกานั่นเอง สิ่งพื้นฐานที่ควรทราบก็คือนาฬิกา Rolex ของแท้นั้นจะมีน้ำหนักมากกว่าของปลอมเสมอ เนื่องจากนาฬิกา Rolex ของแท้ได้รับการผลิตมาจากวัสดุที่มีคุณภาพและมีมูลค่าสูง เช่น อัญมณี ทองคำ สเตนเลสสตีล บางเรือนอาจจะเป็นสเตนเลสแท้ ซึ่งใช้สเตนเลส 904L เกรดเดียวกับเครื่องมือผ่าตัดทางการแพทย์ นอกจากจะทำให้มีน้ำหนักที่มากกว่าแล้ว ก็อาจจะทำให้มีความวาวที่มากกว่านาฬิกาของปลอมที่ผลิตจากวัสดุด้อยคุณภาพด้วยเช่นกัน 2. เช็คนาฬิกา Rolex แท้จากการเดินของเข็มวินาที การเดินของเข็มวินาทีเป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถสังเกตเพื่อจำแนกนาฬิกา Rolex ของแท้ของปลอมได้ โดยนาฬิกา Rolex ของแท้นั้นจะใช้ระบบออโตเมติคซึ่งจะมีลักษณะการเดินของเข็มวินาทีราว 5-8 ครั้งต่อวินาที ทำให้การหมุนของเข็มราบเรียบลื่นไหล ไม่สะดุดหรือมีช่องว่าง แตกต่างจากนาฬิกาปลอมที่อาจใช้ระบบควอทซ์ที่จะมีลักษณะการเดินของเข็มวินาทีเป็นรายนาที ทำให้ดูไม่นุ่มนวลลื่นไหลเหมือนนาฬิกา Rolex ของแท้ 3. เช็คนาฬิกา Rolex แท้จากเสียงของเข็มวินาที นอกจากลักษณะการเดินของเข็มวินาทีมีความแตกต่างกันแล้ว เสียงของเข็มวินาทีระหว่างนาฬิกา Rolex ของแท้และนาฬิกา Rolex ของปลอมเองก็มีความแตกต่างกันด้วยเช่นกัน อย่างที่ได้บอกไปว่านาฬิกา Rolex ของแท้นั้นจะใช้ระบบออโตเมติคซึ่งจะแทบไม่ได้ยินเสียงการเดินของเข็มวินาทีเลย แตกต่างจากนาฬิกาปลอมที่ใช้ระบบควอทซ์ซึ่งจะมีเสียง ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก ตามจังหวะการเดินรายวินาที 4. เช็คนาฬิกา Rolex แท้จากตัวอักษรบนหน้าปัดนาฬิกา เนื่องจากนาฬิกา Rolex แท้นั้นจะได้รับการผลิตอย่างประณีตและใส่ใจ ดังนั้นตัวอักษรบนหน้าปัดนาฬิกาจะต้องมีความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นความสมมาตร การเว้นช่องไฟที่เท่ากัน ความคมชัด จะต้องไม่มีตำหนิ เบี้ยว เอียง หรือสะกดผิดอย่างแน่นอน 5. เช็คนาฬิกา Rolex แท้จากตัวเลขวันที่บนหน้าปัดนาฬิกา นอกจากตัวอักษรบนหน้าปัดนาฬิกาแล้ว ตัวเลขวันที่บนหน้าปัดนาฬิกายังช่วยให้เราสามารถจำแนกนาฬิกาของแท้ออกจากของปลอมได้เช่นกัน โดยตัวเลขวันที่บนหน้าปัดนาฬิกา Rolex ของแท้นั้นจะต้องมีความคมชัด มีลักษณะที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย อ่านได้ง่าย ในขณะที่ตัวเลขวันที่ของนาฬิกา Rolex ปลอมนั้นอาจมีความเลือนราง ไม่คมชัดเท่า อ่านได้ไม่ชัดเจน 6. เช็คนาฬิกา Rolex แท้จากโลโก้นาฬิกา สัญลักษณ์โลโก้ของ Rolex บนหน้าปัดนาฬิกาเป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถพิจารณาเพื่อเช็ค Rolex ว่าเป็นของแท้หรือของปลอมได้เช่นกัน โดย Rolex แท้นั้นจะมีสัญลักษณ์โลโก้ของ Rolex เป็นรูปมงกุฎอยู่บริเวณใกล้กับตำแหน่ง 12 นาฬิกา โดยสัญลักษณ์โลโก้จะต้องมีความนูนขึ้นมาเล็กน้อย และเส้นขอบของมงกุฎจะต้องมีความเปล่งประกายมากกว่าจุดอื่น นอกจากนี้ Rolex ตั้งแต่ประมาณปี 2004 เป็นต้นไป บนกระจกหน้าปัดนาฬิกาจะใช้การเลเซอร์แบบฟองอากาศพิมพ์โลโก้ Rolex ไข่ปลาหลังตำแหน่ง 6 นาฬิกา จึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่ไว้สำหรับเช็คนาฬิกา Rolex แท้ได้เช่นกัน 7. เช็คนาฬิกา Rolex แท้จากเลนส์ Cyclops เลนส์ขยาย Cyclops ที่อยู่บริเวณเหนือช่องบอกวันที่บนหน้าปัดนาฬิกาจะต้องมีลักษณะที่เป็นเลนส์นูนขึ้นมาเล็กน้อยบริเวณขวามือของหน้าปัดนาฬิกา ซึ่งจะอยู่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา และตัวเลนส์จะขยายถึง  2.5 เท่า ทำให้สามารถอ่านตัวเลขบอกวันที่ได้ง่าย ซึ่งนาฬิกา Rolex ที่เลนส์ไม่มีความนูนหรืออ่านวันที่ได้ยากนั้นอาจสันนิษฐานว่าเป็นของปลอมได้ในเบื้องต้น 8. เช็คนาฬิกา Rolex แท้จากการทำงานของเม็ดมะยม การทำงานของเม็ดมะยมของนาฬิกา Rolex แท้นั้นจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากนาฬิกาปลอมและนาฬิกาทั่วไป โดยหากเราคลายเม็ดมะยมเพื่อหมุนเข็มวินาทีถอยหลังเปลี่ยนวันที่ วันที่จะถูกเปลี่ยนเมื่อเข็มนาฬิหมุนมายังเลข 6 นาฬิกาแทนเลข 12 นาฬิกาแบบนาฬิกาทั่วไป 9. เช็คนาฬิกา Rolex แท้จากฝาหลังของนาฬิกา บริเวณฝาด้านหลังของนาฬิกาหรือที่เรียกกันว่า Caseback นั้น หากเป็นนาฬิกา Rolex ของแท้จะต้องมีความเรียบเนียน ลูบสัมผัสแล้วลื่น ไม่มีการปั๊มตรา แกะสลัก หรือแสดงกลไกภายในให้เห็น ซึ่งจะมีความแตกต่างจากนาฬิกา Rolex ของปลอมที่มักจะปั๊มตราสัญลักษณ์หรือแสดงให้เห็นกลไกของนาฬิกาเพื่อให้ดูโดดเด่นน่าเชื่อถือ 10. เช็คนาฬิกา Rolex แท้จากการป้องกันน้ำ อีกหนึ่งสิ่งที่สามารถเช็ค Rolex แท้และ Rolex ปลอมได้ก็คือความสามารถในการป้องกันน้ำนั่นเอง โดยนาฬิกา Rolex ของแท้รุ่นทั่วไปจะได้รับการออกแบบมาให้สามารถป้องกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง และรุ่น Submariner ที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับกิจกรรมดำน้ำลึกโดยเฉพาะสามารถกันน้ำได้ถึงระดับความลึก 200 เมตรเลยทีเดียว หากนาฬิกา Rolex ไม่สามารถกันน้ำได้ หรือกันน้ำได้ไม่ดี อาจสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเป็นของปลอมได้เช่นกัน 11. เช็คนาฬิกา Rolex แท้จากการแกะสลักด้านข้าง อีกหนึ่งจุดสังเกตสำหรับการเช็คนาฬิกา Rolex แท้คือให้สังเกตจากเม็ดมะยมและการแกะสลักรอบ ๆ ตัวเรือนของนาฬิกาจะพบว่านาฬิกา Rolex ของแท้จะมีรายละเอียดการแกะสลักที่มีความปราณีตและมีศิลปะสูงกว่าของปลอม เนื่องจากมีการใช้ช่างทำนาฬิกาที่มีฝีมือและความเชี่ยวชาญจึงทำให้รายละเอียดของการแกะสลักมีความสวยงามและพิถีพิถันกว่าของปลอม 12. เช็คนาฬิกา Rolex แท้จากหมายเลข Serial Number วิธีเช็คนาฬิกา Rolex ของแท้วิธีสุดท้ายที่ทาง Timethai by Tag ได้นำมาแชร์ให้กับทุกคนในบทความนี้ก็คือการตรวจสอบจากหมายเลข Serial Number นั่นเอง โดยวิธีนี้อาจมีความยุ่งยากและต้องอาศัยความชำนาญเล็กน้อย เนื่องจากจะต้องทำการถอดสายนาฬิกาออกจากตัวเรือนเพื่อดู Serial Number ที่อยู่บริเวณตำแหน่ง 6 นาฬิกาส่วนล่างของหน้าปัดนาฬิกา โดยลายเส้นตัวอักษรที่สลักไว้จะต้องมีความคมชัดสูง เมื่อแสงทำมุมตกกระทบจะต้องสะท้อนแสงเป็นประกายออกมา แชร์จุดสังเกตนาฬิกา Rolex อันไหนปลอมชัวร์ไม่ต้องสืบ หลังจากที่ได้รู้วิธีการสังเกตตรวจเช็คนาฬิกา Rolex แท้ที่ทาง Timethai by Tag ได้นำเสนอกันไปแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงได้รับความรู้ในการตรวจสอบนาฬิกา Rolex ของแท้ของปลอมกันก่อนเลือกรับซื้อนาฬิกา Rolex เบื้องต้นแล้ว ต่อมาเพื่อให้แน่ใจ เรามาดูกันดีกว่าว่ามีจุดสังเกตไหนบ้างที่มองปุ๊บรู้ปั๊บว่าปลอมชัวร์ นาฬิกาน้ำหนักเบาผิดปกติ เข็มวินาทีเดินสะดุด ไม่ลื่นไหล เข็มวินาทีมีเสียงติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก ขณะเดิน ตัวอักษรบนหน้าปัดนาฬิกามีคำผิด เบี้ยว เอียง สีของหน้าปัดมีความวาวหลอกตา ไม่เป็นธรรมชาติ โลโก้นาฬิกาดูมีความแปลกตาแตกต่างจากของแท้ ไม่นูน เส้นขอบไม่เป็นประกาย เมื่อหมุนเม็ดมะยมถอยหลัง ตัวเลขวันที่ไม่เปลี่ยนเมื่อเข็มนาฬิกาอยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ไม่มีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ ไม่มีหมายเลข Serial Number หรือหมายเลข Serial Number เลือนราง ไม่คมชัด ราคาถูกกว่าท้องตลาดมากจนผิดปกติ เลือกซื้อนาฬิกา Rolex มือสองของแท้ กับ TimeThai By Tag หากว่าคุณสนใจที่จะเข้าสู่วงการซื้อขายนาฬิกา Rolex มือสองของแท้ แต่ว่ายังไม่มีความชำนาญในการตรวจเช็คนาฬิกา Rolex แท้ปลอมแล้วล่ะก็ ลองมาดูนาฬิกา […]

ภาษานาฬิกาที่ทำให้คุณดูโปรแบบผู้เชี่ยวชาญ | Timethai

คำศัพท์เกี่ยวกับนาฬิกาที่ควรรู้

ดูโปรแบบมืออาชีพด้วยภาษานาฬิกา ไม่ว่าวงการไหนก็มีภาษาหรือคำศัพท์เฉพาะของวงการทั้งนั้น วงการนาฬิกาก็เช่นกัน มือใหม่หลาย ๆ คนที่เพิ่งเข้าวงการรับซื้อนาฬิกามือสองอาจสงสัยว่าภาษานาฬิกาคืออะไร? ในการรับซื้อขายนาฬิกา ภาษาที่ใช้สามารถบ่งบอกได้เลยหรือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ? อยากดูโปรแบบมืออาชีพต้องรู้ศัพท์นาฬิกาอะไรบ้าง? วันนี้ Timethai by Tag ได้รวบรวมคำศัพท์เกี่ยวกับนาฬิกาที่มือใหม่ควรทำความรู้จักมาให้แล้ว บอกเลยว่าเพียงเท่านี้ทุกคนก็สามารถเดินเข้าร้านนาฬิกาของแท้มือสองไปซื้อขายราวกับเป็นผู้เชี่ยวชาญกันได้แบบไม่มีพลาด! ถ้าสนใจที่จะทำความรู้จักกับภาษานาฬิกาแล้วก็ไปดูพร้อมกันได้เลย ไขข้อสงสัย ภาษานาฬิกาเหล่านี้คืออะไร? ภาษานาฬิกา คือภาษาหรือศัพท์เทคนิคในวงการนาฬิกาที่ต้องอาศัยความเข้าใจ โดยอาจใช้เพื่ออธิบายถึงส่วนประกอบ วัสดุ คุณสมบัติ หรือการใช้งานนาฬิกาเพื่อให้มีความกระชับรวบรัดแต่สามารถเข้าใจได้ ซึ่งการใช้ศัพท์นาฬิกานี้ไม่เพียงแต่มีความสะดวกในการสื่อสารเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถบ่งบอกได้อีกว่าผู้พูดเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เกี่ยวกับนาฬิกาอย่างลึกซึ้ง เพียงแค่ใช้ภาษานาฬิกาแม้แต่มือใหม่ก็สามารถรับซื้อนาฬิกามือสองได้ราวกับมือโปร รวมภาษานาฬิกาที่จะช่วยให้คุณดูโปรขึ้น ในบางครั้ง ไม่ใช่ว่าเฉพาะมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มก้าวเข้าสู่วงการนาฬิกาที่จะเกิดความงุนงงกับภาษานาฬิกาอันซับซ้อนนี้เท่านั้น แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญที่มีความเก๋าเกมอยู่ในแวดวงมาอย่างเนิ่นนานยังอาจสับสนกับศัพท์นาฬิกาเหล่านี้ได้เช่นกัน ก่อนที่ก้าวเท้าเข้าสู่ ร้านนาฬิกามือสองไปเลือกซื้อนาฬิกา เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าภาษานาฬิกาที่ควรรู้เอาไว้นั้นมีอะไรบ้าง? ซึ่ง Timethai by Tag ได้รวบรวมตัวอย่างที่น่าสนใจมาให้แล้ว เช่น Arabic Number Arabic Number หรือก็คือตัวเลขอารบิกนั่นเอง เป็นตัวเลขที่อยู่บนหน้าปัดของนาฬิกา เพื่อบอกว่าปัจจุบันเป็นเวลากี่โมง โดยตัวเลขอารบิกนี้มีที่มาจากอักษรอินเดียโบราณ ก่อนที่จะวิวัฒนาการและแพร่กระจายไปจนถึงเปอร์เซียในยุคกลาง และต่อมากลุ่มชาวอาหรับได้นำเข้ามาเผยแพร่ในยุโรป กลายมาเป็นตัวเลขที่นิยมใช้กันเป็นสากลในปัจจุบัน Analogue Analogue, Analog หรือ อนาล็อก เป็นภาษานาฬิกาที่พบเจอได้บ่อย ซึ่งหมายถึงระบบของนาฬิกาที่ใช้เข็มเพื่อบอกเวลานั่นเอง Antimagnetic Watch Antimagnetic Watch หรือ นาฬิกากันแม่เหล็ก คือนาฬิกาที่มีระบบกลไกป้องกันตนเองจากสิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะสนามแม่เหล็กที่อาจรบกวนการทำงานของระบบนาฬิกา ทำให้นาฬิกาไม่เที่ยง เดินเร็วขึ้น ช้าลง ทำให้นาฬิการวน หยุดทำงานชั่วคราว หรือทำให้กลไกของนาฬิกาเสียหาย Applied Numerals Applied Numerals คือการติดตั้งตัวเลขหรือขีดบอกเวลาลงบนหน้าปัดนาฬิกาให้นูนเด่นมีความสวยงาม Art Deco Art Deco, อาร์ตเดโค, อลังการศิลป์ หรือ ศิลปะตกแต่ง เป็นสไตล์การออกแบบที่มีรูปแบบเฉพาะตัวของยุค 20’s – 30’s ซึ่งคำนี้นอกจากจะเป็นคำศัพท์นาฬิกาแล้วยังเป็นคำศัพท์ในวงการศิลปะอีกด้วย Assembling Assembling คือขั้นตอนวิธีการประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ของระบบกลไกนาฬิกา ซึ่งในสมัยก่อนนั้นจะเป็นการประกอบมือ แม้ว่าในปัจจุบันเครื่องจักรจะเข้ามามีบทบาทในการประกอบร่างนาฬิกามากขึ้น ทว่าการประกอบด้วยมือของมนุษย์ยังได้รับการยอมรับว่ามีความประณีตกว่าเช่นเดิม Automatic Watch Automatic Watch หรือ นาฬิกาอัตโนมัติ คือระบบของนาฬิกาที่เดินอัตโนมัติ โดยการเคลื่อนไหวของผู้ที่สวมใส่นาฬิกาจะทำให้ระบบของนาฬิกาสามารถไขลานได้อัตโนมัติด้วยการเคลื่อนที่ของแผ่น Rotor ที่ส่งพลังงานไปยัง Mainspring Bezel Bezel คือกรอบตัวเรือนโลหะที่ใช้ยึดกระจกหน้าปัดนาฬิกา โดยมากจะมีลักษณะเป็นทรงกลมรูปร่างคล้ายวงแหวน ในนาฬิกาบางรุ่นนั้น Bezel สามารถหมุนได้ Chronograph Chronograph เป็นอีกหนึ่งภาษานาฬิกาที่มักพบเจอได้บ่อย โดยคำคำนี้คือนาฬิกาที่มีระบบจับเวลาแยกออกมาจากระบบกลไกปกติของนาฬิกา พร้อมทั้งมีหน้าปัดย่อยสำหรับแสดงเวลาที่จับได้ โดยนาฬิกาประเภทนี้อาจมีทั้งแบบ 1 ปุ่มและ 2 ปุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมผลิตแบบ 2 ปุ่ม คือ ปุ่มบนสำหรับกดเพื่อจับหรือหยุดการจับเวลา ปุ่มล่างสำหรับกดเพื่อรีเซ็ตการจับเวลา Chronometer Chronometer คือนาฬิกาที่มีความเที่ยงตรงของกลไก ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO3159 จากสถาบัน Official Swiss Chronometer Testing Institute (COSC) Crown Crown ในภาษานาฬิกานั้นแตกต่างจากภาษาอังกฤษ โดยคำนี้ในภาษานาฬิกานั้นหมายถึงเม็ดมะยมที่ใช้สำหรับไขลานและปรับตั้งเวลาของนาฬิกา Crystal Crystal คือกระจกบนหน้าปัดนาฬิกา ซึ่งในสมัยก่อนอาจใช้เป็นวัสดุที่สามารถแตกหรือมีรอยขีดข่วนได้ง่ายอย่างเช่นแก้ว ต่อมาได้มีการพัฒนามาใช้ผลึกควอตซ์และแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้เกือบ 100% Dial Dial คือหน้าปัดนาฬิกา เป็นส่วนหน้าของนาฬิกาที่ใช้บอกหรือแสดงเวลา ซึ่งอาจมีหน้าปัดย่อยเล็ก ๆ ด้านในที่เรียกว่า Auxiliary Dials หรือ Subsidiary Dials อยู่ด้วยได้ Divers Watch Divers Watch หรือ นาฬิกาดำน้ำ คือนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำหรือสำหรับสวมใส่ในการทำกิจกรรมทางน้ำ ซึ่งมีคุณสมบัติสามารถทนทานต่อแรงดันน้ำได้เป็นอย่างดี Gold Gold หรือก็คือทองนั่นเอง เป็นวัสดุที่นิยมนำมาทำเป็นตัวเรือนและสายของนาฬิกา โดยจะนิยมใช้ทองอยู่ 3 ประเภท คือ ทองขาว (White Gold) ทองเหลือง (Yellow Gold) และทองชมพู (Pink Gold) LCD LCD หรือ Liquid Crystal Display เป็นอีกหนึ่งภาษานาฬิกาที่จะทำให้คุณดูโปร โดยคำนี้คือหน้าปัดนาฬิกาที่สามารถเรืองแสงได้ มักพบในนาฬิการะบบดิจิทัล LED LED หรือ Liquid Emitting Display คือตัวเลขที่สามารถเรืองแสงได้ มักพบในนาฬิการะบบดิจิทัลเช่นเดียวกัน Limited Edition Watch Limited Edition Watch คือนาฬิการุ่นที่ได้รับการผลิตมาในจำนวนจำกัด โดยมากมักจะมีการสลักบนเรือนนาฬิกาเพื่อแสดงให้เห็นว่านาฬิกาเรือนนี้เป็นเรือนที่เท่าไรในจำนวนนาฬิกาทั้งหมดของรุ่นนี้ที่มี แม้ว่าคำนี้นั้นจะไม่ได้เป็นศัพท์นาฬิกาเฉพาะทาง แต่การรู้จักและใช้คำนี้ก็สามารถทำให้คุณดูเป็นมืออาชีพได้เช่นกัน Lug Lug คือเขี้ยว สลัก ตะขอ หรือหมุด ซึ่งเป็นส่วนที่เชื่อมตัวเรือนนาฬิกาเข้ากับสายของนาฬิกา Marine Chronometer Marine Chronometer คือนาฬิกาแบบกลไกหรือแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความเที่ยงตรงสูง เป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเดินเรือทะเลเพื่อคำนวณหาตำแหน่งละติจูดของเรือบนพื้นโลก ในอดีตจะมีขนาดใหญ่และมักถูกบรรจุอยู่ในกล่องไม้ที่กรุด้วยกระจก Moon Phase Moon Phase คือนาฬิกาที่มีหน้าปัดนาฬิกาแสดงข้างขึ้นและข้างแรมตามปฏิทินจันทรคติ Movement Movement คือกลไกที่สมบูรณ์แบบของนาฬิกา ซึ่งอาจประกอบด้วยชิ้นส่วนกลไกตั้งแต่ 120 ถึง 600 ชิ้น Perpetual Calendar Perpetual Calendar หรือ ปฏิทินตลอดชีพ ในภาษานาฬิกาหมายถึงปฏิทินอัจฉริยะของนาฬิกาที่สามารถเปลี่ยนวันให้เองอย่างถูกต้องแม่นยำแม้กระทั่งปีอธิกสุรทิน ทำให้ไม่ต้องคอยปรับวันเอง Platinum Platinum หรือ แพลตินัม เป็นโลหะชนิดหนึ่งที่มีสีขาวเงิน โดยมีน้ำหนักและมูลค่าสูงกว่าทองคำ นิยมนำมาใช้ทำตัวเรือนและสายของนาฬิกา Power Reserve (Up and Down) Indicator Power Reserve (Up and Down) Indicator คือหน้าปัดของนาฬิกาที่แสดงให้เห็นถึงการเก็บประจุพลังงานสำรองของนาฬิกา เพื่อบอกให้ผู้สวมใส่รู้ก่อนเข็มบอกเวลาจะหยุดเดิน Quartz Quartz หรือ ควอตซ์ เป็นอีกหนึ่งในภาษานาฬิกาที่พบเห็นและได้ยินบ่อย โดยคำนี้หมายถึงผลึกควอตซ์อันเป็นส่วนประกอบสำคัญของนาฬิกา ทว่าในปัจจุบันนิยมใช้ผลึกสังเคราะห์แทนผลึกควอตซ์ตามธรรมชาติ โดยในปัจจุบันนี้หมายถึงนาฬิกาที่ต้องใช้ถ่านในการให้พลังงานเพื่อให้สามารถบอกเวลาได้ โดยพลังงานจากถ่านบางส่วนจะถูกส่งเข้าไปยังผลึกควอตซ์แล้วจึงถูกส่งต่อมาเพื่อควบคุมการบอกเวลาอีกต่อหนึ่ง Radio Controlled Radio Controlled คือนาฬิกาควอตซ์ที่รับคลื่นสัญญาณวิทยุที่มีความเที่ยงตรงเพื่อปรับตั้งเวลาของตนเอง Rotor Rotor หรือ โรเตอร์ คือแผ่นที่มีลักษณะแบนคล้ายใบพัด โดยจะเคลื่อนที่ด้วยน้ำหนักของตนเองรวมกับการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่ เพื่อส่งพลังงานไปยัง Mainspring ทำให้นาฬิกาทำงาน Ruby Ruby หรือ ทับทิม คือแร่ที่ใช้เพื่อลดการเสียดสีในการทำงานของกลไกต่าง ๆ ในระบบนาฬิกา โดยในปัจจุบันนิยมใช้เป็นทับทิมสังเคราะห์แทนการใช้ทับทิมตามธรรมชาติ Sapphire Sapphire หรือ แซฟไฟร์ คือวัสดุแร่ที่นิยมนำมาผลิตเป็นกระจกหน้าปัดนาฬิกา ซึ่งสามารถป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนได้เกือบ 100% Screw-Down Crown Screw-Down Crown คือเม็ดมะยมรูปแบบที่ขันเกลียวแน่น เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซึม ฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในนาฬิกา Skeleton Watch Skeleton Watch หรือ นาฬิกาหน้าปัดเปลือย เป็นศัพท์นาฬิกาที่หมายถึงนาฬิกาที่เผยให้เห็นกลไกการทำงานอันซับซ้อนของระบบนาฬิกาที่เหมือนกับเผยให้เห็นโครงกระดูกนั่นเอง Solar Powered Solar Powered คือนาฬิกาควอตซ์ที่มีส่วนรับแสงอาทิตย์เพื่อนำมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการทำงานของกลไก โดยมีตัวเก็บประจุไฟฟ้าเพื่อเก็บเป็นพลังงานสำรอง Stopwatch Stopwatch คือนาฬิกาจับเวลาที่มีคุณสมบัติในการจับเวลาได้อย่างละเอียดและแม่นยำ โดยเข็มนาฬิกาจะแสดงเวลาที่ใช้ไปค้างไว้จนกว่าจะได้รับการปรับตั้งใหม่ Sweep Second Sweep Second คือเข็มวินาทีที่ติดอยู่กึ่งกลางของตัวเรือนนาฬิกา Swiss Made Swiss Made เป็นคำศัพท์เกี่ยวกับนาฬิกา โดยนาฬิกาที่มีสิทธิในการใช้คำว่า Swiss Made เป็นเครื่องหมายนี้จะต้องเป็นไปตามที่สมาพันธ์สวิสประกาศเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 1971 ว่า 1. ส่วนประกอบหรือชิ้นส่วนต้องได้รับการผลิตในสวิสตามสัดส่วนที่กำหนด หรือมีต้นทุนในการผลิตที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างน้อย 50% ขึ้นไป 2. นาฬิกาต้องประกอบในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 3. แผนการผลิตนาฬิกาต้องเริ่มต้นและควบคุมโดยผู้ที่อยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ […]

กระจกนาฬิกา องค์ประกอบสำคัญของนาฬิกาข้อมือ

กระจกนาฬิกาแต่ละประเภท แตกต่างกันอย่างไร?

กระจกนาฬิกาบนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งของนาฬิกา ซึ่งหากถามว่ากระจกนาฬิกาใช้ทำอะไร Timethai by Tag ที่เป็นร้านนาฬิกาของแท้มือสองก็ต้องขอบอกเลยว่า กระจกนาฬิกา คือสิ่งที่ทำหน้าที่ปกป้องหน้าปัดนาฬิกาจากสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง และรอยขีดข่วน รวมถึงกลไกภายในนาฬิกาไม่ให้เกิดความเสียหาย โดยวัสดุที่ใช้ทำกระจกนาฬิกาข้อมือก็จะมีหลากหลายแบบด้วยกันและแต่ละแบบก็มีความโดดเด่นและเอกลักษณ์ที่ตอบโจทย์ในการใช้งานที่แตกต่างกัน ทั้งนี้กระจกนาฬิกา Glass Watch ยังมีรูปทรงและขนาดที่แตกต่างกันไปอีกด้วย ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับการออกแบบของนาฬิกาแต่ละรุ่น โดยทั่วไปแล้ว กระจกนาฬิกาจะมีรูปทรงกลมหรือสี่เหลี่ยม และมีขนาดตั้งแต่ 20 –  40 มิลลิเมตร กระจกนาฬิกาบนหน้าปัดนาฬิกามีกี่แบบ แต่ละแบบเป็นแบบไหน สงสัยกันไหมว่ากระจกที่เราเห็นกันบนหน้าปัดนาฬิกามีอยู่กี่แบบ? จริง ๆ แล้วกระจกนาฬิกาที่อยู่บนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือนั้น แท้จริงแล้วสามารถแบ่งได้เป็น 3 แบบหลัก ๆ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีรายละเอียด ดังนี้ กระจกนาฬิกาอะคริลิก (Acrylic) กระจกนาฬิกาอะคริลิกเป็นวัสดุประเภทพลาสติกใส นิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในนาฬิกาที่มีราคาไม่สูง เช่น นาฬิกาพลาสติก หรือนาฬิกาสปอร์ต เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำ น้ำหนักเบา และทนทานต่อแรงกระแทก แต่ก็ยังมีความแข็งน้อยกว่ากระจกแซฟไฟร์ จึงมีโอกาสเกิดรอยขีดข่วนได้ง่ายกว่า โดยกระจกอะคริลิกมีความแข็งระดับ 2-4 โมห์ส ในขณะที่กระจกมิเนอรัลมีความแข็งระดับ 5-7 โมห์ส และกระจกแซฟไฟร์มีความแข็งระดับ 9 โมห์ส ซึ่งอาจทำให้ดูไม่สวยงามและอาจทำให้มองเห็นหน้าปัดไม่ชัดเจน ตัวอย่างของแบรนด์นาฬิกาที่มักใช้กระจกนาฬิกาอะคริลิกเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ นาฬิกาพลาสติกหรือนาฬิกาสปอร์ต เช่น Casio, G-Shock, Swatch, และ Timex เป็นต้น กระจกนาฬิกามิเนอรัล (Mineral) กระจกนาฬิกามิเนอรัลเป็นวัสดุประเภทแก้วและเป็นกระจกนาฬิกา Glass Watch ที่มีคุณสมบัติอยู่ระหว่างอะคริลิกและแซฟไฟร์ ทนทานต่อรอยขีดข่วนได้ดีกว่าอะคริลิก แต่มีความแข็งน้อยกว่าแซฟไฟร์ จึงยังทำให้มีโอกาสเกิดรอยขีดข่วนได้อยู่ โดยกระจกมิเนอรัลมีความแข็งระดับ 5-7 โมห์ส นิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของนาฬิกาที่มีราคาระดับกลาง เช่น นาฬิกาข้อมือทั่วไป นาฬิกาดำน้ำ หรือนาฬิกาสปอร์ต เนื่องจากมีราคาไม่สูงมาก และมีความแข็งแรงทนทานกว่ากระจกอะคริลิก ตัวอย่างของแบรนด์นาฬิกาที่มักใช้กระจกนาฬิกามิเนอรัลเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ นาฬิกาข้อมือทั่วไป เช่น Seiko, Citizen, และ Tissot เป็นต้น กระจกนาฬิกาแซฟไฟร์ (Sapphire)  กระจกนาฬิกาแซฟไฟร์เป็นวัสดุประเภทคริสตัลสังเคราะห์ มีความแข็งแรงทนทานมากที่สุด แทบไม่เกิดรอยขีดข่วน  โดยกระจกแซฟไฟร์มีความแข็งระดับ 9 โมห์ส ซึ่งหมายความว่ามีความแข็งมากพอที่จะทนต่อการขีดข่วนจากวัสดุ นิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของนาฬิกาหรู อย่าง นาฬิกาสวิส เนื่องจากมีความแข็งมากที่สุดและดูหรูหราสวยงาม แต่ราคาจะค่อนข้างสูงกว่ากระจกนาฬิกา Glass Watch แบบอื่น ๆ ตัวอย่างของแบรนด์นาฬิกาที่มักใช้กระจกนาฬิกาแซฟไฟร์ ได้แก่ นาฬิกาสวิส เช่น Rolex, Patek Philippe, และ Omega เป็นต้น ตารางสรุปจุดเด่นของกระจกนาฬิกาทั้ง 3 แบบ คุณสมบัติ กระจกนาฬิกาอะคริลิก (Acrylic) กระจกนาฬิกามิเนอรัล (Mineral) กระจกนาฬิกาแซฟไฟร์ (Sapphire) วัสดุ พลาสติก แก้ว แก้วสังเคราะห์ ความแข็ง 3-4  โมห์ส 5-7  โมห์ส 9  โมห์ส ทนรอยขีดข่วน ไม่ทน ทนกว่าอะคริลิก ทนที่สุด ความใส ใสน้อยที่สุด ใสกว่าอะคริลิก ใสที่สุด ราคา ราคาถูกที่สุด ราคาแพงกว่าอะคริลิก ราคาแพงที่สุด หลังจากที่ได้รู้จักกับกระจกนาฬิกาทั้ง 3 แบบกันไปแล้ว Timethai by Tag ซึ่งเป็นร้านนาฬิกามือสองแบรนด์หรูต้องบอกเลยว่านอกจากวัสดุที่นำมาใช้ทำกระจกนาฬิกา Glass Watch ตัวของกระจกหน้าปัดนาฬิกายังมีรูปแบบอื่น ๆ อีกด้วย โดยรูปแบบของกระจกนาฬิกาที่เป็นส่วนของหน้าปัดนั้นสามารถแบ่งได้อีกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ตามลักษณะของรูปทรงและขอบกระจก ได้แก่ กระจกหน้าปัดแบบแบน (Flat) กระจกนาฬิกาที่มีรูปทรงแบนราบ ไม่มีขอบโค้งมนหรือมุมใด ๆ ซึ่งเป็นรูปแบบกระจกนาฬิกาที่พบเห็นได้ทั่วไปในนาฬิกาข้อมือหลายรุ่น มีข้อดีคือมีความทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี แต่อาจทำให้มองเห็นหน้าปัดไม่ชัดเจนเท่ากับกระจกนาฬิกาแบบอื่น ๆ กระจกหน้าปัดแบบโค้ง (Curved) กระจกนาฬิกาที่มีรูปทรงโค้งมน นิยมใช้กับนาฬิกาข้อมือที่มีหน้าปัดขนาดใหญ่ เพื่อให้ดูกลมกลืนและสวยงามยิ่งขึ้น มีข้อดีคือทำให้มองเห็นหน้าปัดได้ชัดเจนขึ้น แต่อาจทำให้กระจกนาฬิกาแตกได้ง่ายกว่ากระจกหน้าปัดแบบแบน กระจกหน้าปัดแบบเว้า (Bezel) กระจกนาฬิกาที่มีรูปทรงเว้าเข้าด้านใน นิยมใช้กับนาฬิกาข้อมือที่มีหน้าปัดขนาดเล็ก เพื่อให้ดูมีมิติและหรูหรายิ่งขึ้น จุดเด่นคือทำให้มองเห็นหน้าปัดได้ชัดเจนขึ้น แต่อาจทำให้กระจกนาฬิกาแตกได้ง่ายกว่ากระจกหน้าปัดแบบแบน ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะกระจกนาฬิกาข้อมือยังสามารถแบ่งออกได้เป็นรูปแบบอื่น ๆ ตามลักษณะของการออกแบบและการตกแต่งเพิ่มเติมของกระจกนาฬิกาได้อีกด้วย เช่น กระจกหน้าปัดแบบเคลือบสารกันรอย (Anti-reflective) เป็นกระจกนาฬิกาที่มีสารเคลือบพิเศษที่ช่วยลดการสะท้อนของแสง ทำให้มองเห็นหน้าปัดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น กระจกหน้าปัดแบบเคลือบสารกันรอยขีดข่วน (Scratch-resistant) เป็นกระจกนาฬิกาที่มีสารเคลือบพิเศษที่ช่วยลดการเกิดรอยขีดข่วน ทำให้กระจกนาฬิกามีความทนทานมากขึ้น กระจกหน้าปัดแบบเคลือบสารกันแสง (Photochromic) เป็นกระจกนาฬิกาที่มีสารเคลือบพิเศษที่เปลี่ยนสีได้เมื่อโดนแสงแดด ทำให้มองเห็นหน้าปัดได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในที่ร่ม จะเห็นได้ว่า นอกจากการแบ่งประเภทของกระจกนาฬิกาด้วยวัสดุแล้วนั้น กระจกนาฬิกา คือส่วนของหน้าปัดนาฬิกาที่สามารถแบ่งประเภทได้ตามลักษณะของรูปทรงและขอบกระจก รวมถึงการออกแบบและการตกแต่งเพิ่มเติมของกระจกนาฬิกาได้อีกด้วย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกระจกนาฬิกา Glass Watch ในรูปแบบไหนกระจกนาฬิกาก็เป็นชิ้นส่วนที่สำคัญที่ช่วยปกป้องหน้าปัดนาฬิกาจากรอยขีดข่วนและความเสียหายได้ในระดับหนึ่ง วิธีดูแลกระจกนาฬิกาให้นาฬิกาสามารถใช้งานได้ยาวนาน สำหรับใครที่ได้ลงทุนซื้อนาฬิกากับร้านนาฬิกาหรูมือสองเพื่อเก็บสะสม หรือเพื่อสวมใส่ในชีวิตประจำวัน คงไม่มีใครอยากให้นาฬิกาที่ซื้อมานั้นเสียหายอย่างแน่นอน ซึ่งนอกจากการใช้งานอย่างทะนุถนอมแล้ว การดูแลรักษากระจกนาฬิกาอย่างเหมาะสมยังช่วยให้นาฬิกาใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น โดยเราสามารถดูแลกระจกนาฬิกาได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง ดังนี้ ✔  หลีกเลี่ยงการกระแทกหรือตก ด้วยความที่กระจกนาฬิกาเป็นวัสดุที่มีความเปราะบางจึงควรหลีกเลี่ยงและระวังการกระแทกหรือตก เพราะอาจทำให้กระจกเป็นรอยร้าวหรือแตกได้ ✔  ไม่สัมผัสกับสารเคมี สารเคมีบางชนิด เช่น น้ำยาทำความสะอาด น้ำยาล้างจาน หรือน้ำทะเล อาจทำให้กระจกนาฬิกาเสียหายได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีเหล่านี้ ✔  ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ควรทำความสะอาดกระจกนาฬิกาอย่างสม่ำเสมอด้วยผ้านุ่มชุบน้ำหมาด ๆ เพื่อขจัดคราบสกปรกและฝุ่นละอองที่เกาะติดบนกระจก ✔  เคลือบสารกันรอยขีดข่วน การใช้สารกันรอยขีดข่วนจะช่วยปกป้องกระจกนาฬิกาจากการขีดข่วน หรือร่องรอยเล็ก ๆ ต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ ยังควรหมั่นตรวจเช็กสภาพกระจกนาฬิกาอยู่เสมอ หากพบว่ากระจกนาฬิกา Glass Watch มีรอยขีดข่วนหรือเสียหาย Timethai by Tag ขอแนะนำว่าควรรีบซ่อมแซมหรือเปลี่ยนกระจกใหม่ทันที เพื่อไม่ให้รอยขีดข่วนนั้นขยายใหญ่และทำให้กระจกเสียหายมากขึ้น ในกรณีที่กระจกนาฬิกา Glass Watch มีรอยขีดข่วนเล็กน้อย สามารถใช้ผ้านุ่มชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดเบา ๆ หรือใช้น้ำยาขัดแว่นเช็ดเบา ๆ ก็ได้ แต่หากรอยขีดข่วนของกระจกนาฬิกา คือรอยที่ลึกหรือมีรอยแตก ควรรีบนำนาฬิกาไปซ่อมแซมโดยช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความรุนแรงของกระจกนาฬิกาที่มีรอยและหาทางแก้ไขได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที    

กลไกนาฬิการะบบต่าง ๆ พร้อมข้อดีในการใช้งาน

ระบบกลไกนาฬิกาแต่ละแบบต่างกันอย่างไร?

กลไกนาฬิกากับความแตกต่างที่ลงตัวในนาฬิกาแต่ละรุ่น กลไกนาฬิกาคืออะไร ระบบกลไกของนาฬิกาคือระบบขับเคลื่อนที่ทำหน้าที่บอกเวลา ซึ่งจะประกอบด้วยชิ้นส่วนต่าง ๆ มากมายที่ทำงานประสานกันอย่างซับซ้อน และแต่ละชิ้นส่วนภายในระบบนาฬิกาล้วนมีความสำคัญและส่งผลต่อความเที่ยงตรงและความทนทานของนาฬิกาด้วยกันทั้งสิ้น โดยกลไกการทำงานของนาฬิกานั้นจะทำงานโดยอาศัยพลังงานจากแหล่งต่าง ๆ เช่น ลานสปริง แบตเตอรี่ หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น ซึ่งพลังงานเหล่านั้นจะถูกส่งต่อไปยังชิ้นส่วนต่าง ๆ ของกลไกนาฬิกาเพื่อหมุนเข็มนาฬิกาและควบคุมความเร็วในการหมุนของเข็มนาฬิกาให้เข็มนาฬิกาสามารถบอกเวลาได้อย่างถูกต้อง เที่ยงตรง และแม่นยำ เรียกได้ว่าระบบกลไกนาฬิกาถือเป็นหัวใจสำคัญของนาฬิกาเลยก็ว่าได้ เพราะว่ากลไกของนาฬิกา เปรียบเสมือนจิตวิญญาณที่หล่อหลอมให้นาฬิกาขับเคลื่อนและมีชีวิต ซึ่งกลไกนาฬิกาตามร้านนาฬิกามือหนึ่งและร้านนาฬิกามือสองในปัจจุบันนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน โดยแต่ละรูปแบบก็มีจุดเด่นและฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน  ระบบกลไกนาฬิกามีกี่แบบและมีแบบไหนบ้าง?  เมื่อได้รู้จักกับระบบกลไกของนาฬิกากันไปแล้ว สำหรับใครที่อยากรู้ว่า ระบบกลไกนาฬิกามีแบบไหนบ้าง? และแต่ละแบบมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างไรนั้น? วันนี้ทาง Timethai by Tag (ร้านรับซื้อนาฬิกาหรูมือสองของแท้) ขอพาไปรู้จักกับระบบกลไกนาฬิกาแบบต่าง ๆ พร้อม ๆ กันในบทความนี้  โดยทั่วไปแล้วระบบกลไกนาฬิกาจะแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ นั่นก็คือ ระบบกลไกนาฬิกา Mechanical และระบบกลไกนาฬิกา Quartz ซึ่งก็จะมีรายละเอียด ดังนี้ ระบบกลไกนาฬิกา Mechanical ระบบกลไกนาฬิกา Mechanical หรือระบบนาฬิกาแบบจักรกล เป็นระบบกลไกนาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดและมีความซับซ้อนมากกว่าระบบกลไกนาฬิกาแบบอื่น ๆ กลไกการทำงานของนาฬิกาจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากลานสปริง โดยลานสปริงจะค่อย ๆ คลายตัวออกและส่งพลังงานไปยังชิ้นส่วนต่าง ๆ ของกลไกเพื่อหมุนเข็มนาฬิกา ระบบกลไกนาฬิกา Mechanical ประกอบด้วยชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายในระบบนาฬิกามากมายที่ทำงานประสานกัน เช่น ลานสปริง (Mainspring) เป็นแหล่งพลังงานของกลไกนาฬิกา ลานสปริงจะเก็บพลังงานจากการไขลานด้วยมือหรือไขลานอัตโนมัติ เฟือง (Gears) ทำหน้าที่ส่งต่อพลังงานจากลานสปริงไปยังชิ้นส่วนต่าง ๆ ของกลไก จักรกรอก (Balance Wheel) ทำหน้าที่ควบคุมความเที่ยงตรงของนาฬิกา จักรกรอกจะสั่นด้วยความถี่คงที่ ซึ่งจะส่งต่อไปยังเข็มนาฬิกา เข็มนาฬิกา (Hands) ทำหน้าที่แสดงเวลา ข้อดีของระบบกลไกนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical) ✔ ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่  ✔ การเดินของเข็มวินาทีจะเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องและราบรื่น ✔ มีความเที่ยงตรงสูง เนื่องจากจักรกรอกจะสั่นด้วยความถี่คงที่  ✔ มีความทนทาน เนื่องจากชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในระบบนาฬิกาแบบจักรกลมักทำจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง ถึงแม้กลไกนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical) จะมีความเที่ยงตรงสูง แต่ก็ต้องไขลานทุกวันหรือทุกสัปดาห์ เนื่องจากลานสปริงจะค่อย ๆ คลายตัวออกและหมดพลังงาน หากไม่ไขลานนาฬิกาก็จะหยุดเดิน โดยรุ่นนาฬิการะบบกลไกนาฬิกา Mechanical ที่โดดเด่น ก็เช่น Patek Philippe Calatrava Ref. 5119J, Rolex Submariner Ref. 114060 และ Omega Speedmaster Moonwatch Professional Ref.311.30.42.30.01.005 เป็นต้น  ระบบกลไกนาฬิกา Quartz ระบบกลไกนาฬิกา Quartz เป็นระบบกลไกของนาฬิกาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งกลไกการทำงานของนาฬิกาจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ โดยแบตเตอรี่จะส่งพลังงานไปยังคริสตัลควอตซ์และจะสั่นด้วยความถี่คงที่ จากนั้นการสั่นของคริสตัลควอตซ์จะส่งสัญญาณไปยังมอเตอร์เพื่อหมุนเข็มนาฬิกา สำหรับระบบกลไกนาฬิกาแบบควอตซ์ (Quartz) ก็จะประกอบไปด้วยชิ้นส่วนหลัก ๆ ดังนี้ คริสตัลควอตซ์ (Quartz Crystal) เป็นแหล่งพลังงานของกลไกนาฬิกา คริสตัลควอตซ์จะสั่นด้วยความถี่คงที่เมื่อได้รับพลังงานจากแบตเตอรี่ มอเตอร์ (Motor) ทำหน้าที่หมุนเข็มนาฬิกา มอเตอร์จะรับสัญญาณการสั่นจากคริสตัลควอตซ์มาเพื่อทำให้เข็มนาฬิกาเดิน เข็มนาฬิกา (Hands) ทำหน้าที่แสดงเวลา ข้อดีของระบบกลไกนาฬิกาแบบควอตซ์ (Quartz) ✔ ไม่จำเป็นต้องไขลาน นาฬิกาจะเดินได้หากยังมีแบตเตอรี่อยู่ ✔ มีความเที่ยงตรงสูง เนื่องจากคริสตัลควอตซ์จะสั่นด้วยความถี่คงที่ ✔ มีราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับระบบกลไกนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical) ✔ มีอะไหล่ในระบบนาฬิกาที่ไม่ซับซ้อน สามารถซ่อมได้ง่าย อย่างไรก็ตามระบบกลไกนาฬิกาแบบควอตซ์ (Quartz) ก็มีข้อเสียคือเสียงของเข็มนาฬิกาที่เดินนั้นไม่ได้ราบเรียบสักเท่าไหร่และอาจมีความทนทานน้อยกว่าระบบกลไกนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical) โดยรุ่นนาฬิการะบบกลไกนาฬิกา Quartz ที่โดดเด่น ก็เช่น Patek Philippe Aquanaut Luce Ref. 5067A-023, Omega Constellation Quartz Ref. 123.10.35.60.02.001 และ Rolex Oysterquartz Datejust Ref. 17013 เป็นต้น นอกจากระบบหลัก ๆ ทั้ง 2 ระบบ อย่าง ระบบกลไกนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical) และระบบกลไกนาฬิกาแบบควอตซ์ (Quartz) แล้ว แน่นอนว่าตามร้านขายนาฬิกามือหนึ่งและร้านนาฬิกาของแท้มือสองก็ยังมีระบบกลไกนาฬิกาแบบอื่น ๆ อีกที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ระบบกลไกนาฬิกา Analog ระบบกลไกนาฬิกา Analog เป็นระบบกลไกนาฬิกาที่แสดงเวลาด้วยเข็มนาฬิกา 3 เข็ม ได้แก่ เข็มชั่วโมง เข็มนาที และเข็มวินาที ซึ่งกลไกการทำงานของนาฬิกาอาจเป็นได้ทั้งระบบกลไกนาฬิกาแบบควอตซ์ (Quartz) หรือระบบกลไกนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical) โดยในนาฬิการะบบกลไกนาฬิกา Analog แบบควอตซ์ เข็มนาฬิกาจะเคลื่อนไหวอย่างราบรื่นและแผ่วเบา ในขณะที่นาฬิการะบบกลไกนาฬิกา Analog เข็มจะมีการเดินทีละน้อยจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากลานสปริง ลานสปริงจะค่อย ๆ คลายตัวออกและส่งพลังงานไปยังชิ้นส่วนต่าง ๆ ของกลไกเพื่อหมุนเข็มนาฬิกา ระบบกลไกนาฬิกาไฮบริด (Hybrid)  ระบบกลไกนาฬิกาแบบไฮบริด (Hybrid) เป็นระบบกลไกนาฬิกาที่เป็นการผสมผสานระหว่างกลไกของนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical) และระบบกลไกของนาฬิกาแบบควอตซ์ (Quartz) สำหรับกลไกการทำงานของนาฬิกาจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากลานสปริงและแบตเตอรี่ ซึ่ง Timethai by Tag ต้องขอบอกเลยว่านาฬิการะบบไฮบริด (Hybrid) นี้ ตอบโจทย์อย่างมากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical) แต่ไม่อยากไขลานทุกวัน เพราะเป็นนาฬิกาที่ไม่จำเป็นต้องไขลานทุกวัน ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะนอกจากระบบกลไกของนาฬิกาที่ทาง Timethai by Tag ได้หยิบยกมาในข้างต้นแล้ว ยังมีระบบกลไกนาฬิกาแบบอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ✔ ระบบกลไกแบบอัตโนมัติ (Automatic) ขับเคลื่อนด้วยระบบออโต้ ไม่มีถ่าน ✔ ระบบกลไกแบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar) ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ✔ ระบบกลไกแบบแม่เหล็ก (Magnetic) ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแม่เหล็ก ✔ ระบบกลไกแบบแรงดันอากาศ (Barometric) ขับเคลื่อนด้วยแรงดันอากาศ ✔ ระบบกลไกแบบอุณหภูมิ (Thermodynamic) ขับเคลื่อนด้วยอุณหภูมิ สำหรับระบบกลไกนาฬิกาในแบบอื่น ๆ นั้น ก็จะมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามประเภทของกลไกนาฬิกา และหากต้องการเลือกระบบกลไกของนาฬิกาที่เหมาะสม โดยเป็นนาฬิกาที่มีความเที่ยงตรงสูง เสียงการเดินของเข็มนาฬิการาบรื่น ไพเราะ และทนทาน ทาง Timethai by Tag ขอแนะนำให้เลือกระบบกลไกนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical) หรือระบบกลไกนาฬิกาแบบไฮบริด (Hybrid) แต่หากต้องการนาฬิกาที่มีระบบนาฬิกาไม่ต้องไขลานทุกวัน ราคาไม่แพง ก็ต้องขอบอกเลยว่านาฬิการะบบกลไกนาฬิกาแบบควอตซ์ (Quartz) ตอบโจทย์กว่าเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเลือกนาฬิกาสักเรือนที่มีระบบกลไกนาฬิการะบบใดระบบหนึ่งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบและการใช้งาน ดังนั้นก่อนที่จะเลือกนาฬิกาสักเรือนควรพิจารณาเกี่ยวกับระบบนาฬิกา หรือกลไกการทำงานของนาฬิกาให้รอบคอบเสียก่อน เพื่อให้ได้นาฬิกาที่มีระบบกลไกนาฬิกาที่ตรงใจมากที่สุด

วิธีทำความสะอาดนาฬิกาให้เงาวับเหมือนใหม่

วิธีทำความสะอาดนาฬิกาง่าย ๆ ที่คุณก็สามารถทำได้

วิธีทำความสะอาดนาฬิกาและวิธีทำความสะอาดสายนาฬิกาข้อมืออย่างถูกต้องนั้น ถือเป็นที่สิ่งสำคัญมาก ๆ ที่มักถูกมองข้ามไปในปัจจุบัน ไม่ว่านาฬิกาข้อมือจะมีรูปแบบใด หรือมูลค่ามากน้อยแค่ไหนก็ตาม การทำความสะอาดนาฬิกาและบำรุงรักษานาฬิกาข้อมืออย่างถูกวิธีเป็นประจำจะสามารถช่วยรักษารูปลักษณ์ ฟังก์ชันการทำงาน และอายุการใช้งานให้ยาวนานได้มากกว่าการไม่ทำอะไรเลย สำหรับนาฬิกาข้อมือที่เราสวมใส่กัน ต้องบอกเลยว่ามันไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการบอกเวลาเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องประดับที่สามารถสะท้อนถึงสไตล์และตัวตนของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจว่านาฬิกาที่สวมใส่จะส่งเสริมลุคให้ดูดีได้จึงจำเป็นที่จะต้องรู้ถึงวิธีทำความสะอาดนาฬิกาอย่างเหมาะสม ซึ่งวันนี้ TimeThaibytag ร้านรับซื้อนาฬิกามือสองแบรนด์หรูจะขอพาทุกคนไปเจาะลึกถึงวิธีทำความสะอาดนาฬิกาข้อมือแบบละเอียดยิบตั้งแต่วิธีทำความสะอาดสายนาฬิกาไปจนถึงการดูแลหน้าปัดนาฬิกาอย่างถูกต้องเพื่อรักษานาฬิกาให้อยู่ในสภาพเดิมที่เหมือนใหม่พร้อม ๆ กันผ่านบทความนี้   แชร์วิธีทำความสะอาดนาฬิกาด้วยตนเองอย่างถูกวิธี ก่อนที่จะไปรู้ถึงวิธีทำความสะอาดนาฬิกาที่เป็นนาฬิกาข้อมือนั้น TimeThaibytag ซึ่งเป็นร้านรับซื้อนาฬิกามือสองแบรนด์หรูต้องขอบอกก่อนเลยว่า นาฬิกาข้อมือหนึ่งเรือนจะประกอบไปด้วยชิ้นส่วนเล็ก ๆ หรืออะไหล่เล็ก ๆ มากมายที่มีความแข็งแรงและความบอบบางแตกต่างกันไป  ดังนั้นก่อนที่เราจะทำความสะอาดนาฬิกาข้อมือของเราจึงควรเช็กนาฬิกาเรือนนั้น ๆ ก่อนว่าสามารถกันน้ำได้มากน้อยขนาดไหน เพราะหากเป็นนาฬิกาที่ไม่กันน้ำก็อาจทำให้ส่งผลกระทบต่อนาฬิกาได้ นอกจากนี้หากใช้วิธีทำความสะอาดนาฬิกาผิดวิธีก็อาจมีผลต่อการเคลมประกันในอนาคตอีกด้วย ซึ่งหากใครอยากรู้แล้วว่าวิธีทำความสะอาดนาฬิกาอย่างถูกวิธีต้องทำอย่างไรบ้าง ตาม TimeThaibytag ไปอ่านเพิ่มเติมกันได้เลย  1. เช็กความพร้อมของตัวเรือนนาฬิกาและเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดนาฬิกา สำหรับในกรณีที่ไม่มั่นใจว่านาฬิกาเรือนที่ต้องการทำความสะอาดนั้นกันน้ำได้หรือไม่ ทาง TimeThaibytag ขอแนะนำให้ส่งนาฬิกาเรือนให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแลและทำความสะอาดเพื่อความสบายใจและความปลอดภัยต่อตัวเรือนนาฬิกามากที่สุด แต่หากเช็กเรียบร้อยแล้วว่านาฬิกาเรือนที่จะทำความสะอาดสามารถกันน้ำได้ ก็มาถึงอีกขั้นของการเช็กความพร้อมของตัวเรือนว่าได้ขันเกลียวเม็ดมะยมแน่นแล้วหรือยังก่อนทำความสะอาด เพราะหากขันไม่แน่นก็อาจทำให้น้ำรั่วไหลเข้าไปในตัวเรือนจนทำให้ตัวเรือนนาฬิกาทำงานผิดปกติเพราะสนิมเกิดขึ้นจากน้ำที่เข้าไปด้านในได้ เมื่อเช็กทุกอย่างเรียบร้อยแล้วลำดับต่อไปคือการเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดนาฬิกาให้พร้อม ซึ่งก็จะมีอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ดังนี้  ✔ น้ำอุ่น ✔ สบู่อ่อน ✔ ผ้าไมโครไฟเบอร์ ✔ แปรงสีฟันขนนุ่ม 2. วิธีทำความสะอาดนาฬิกาข้อมือบริเวณตัวเรือน วิธีทำความสะอาดนาฬิกาบริเวณตัวเรือนของนาฬิกาข้อมือนี้จะต้องทำการถอดตัวเรือนออกจากสายก่อน จากนั้นเช็ดตัวเรือนนาฬิกาและหน้าปัดนาฬิกาด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ที่จุ่มน้ำอุ่นผสมสบู่อ่อน ๆ แบบหมาด ๆ แล้วใช้แปรงสีฟันขนนุ่มทำความสะอาดตามข้อต่อระหว่างชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่เป็นรอยแยก หรือจุดที่เข้าถึงยาก เช่น ระหว่างตัวเรือนนาฬิกาและฝาหลัง หรือระหว่างข้อต่อของสายนาฬิกา เป็นต้น หากมีเศษฝุ่นที่เอาไม่ออกบริเวณซอกเล็ก ๆ  รอบเม็ดมะยม หรือขอบตัวเรือน สามารถที่จะใช้คอตตอนบัดเช็ด หรือใช้ไม้จิ้มฟันสะกิดออกได้ แต่ต้องทำอย่างระมัดระวังและเบามือที่สุด หลังจากนั้นก็เช็ดด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งเพื่อไม่ให้มีสารตกค้างใด ๆ และซับให้แห้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ที่ไม่เป็นขุย 3. วิธีทำความสะอาดนาฬิกาข้อมือบริเวณสายนาฬิกา  เนื่องจากสายของนาฬิกามีหลายประเภทและแต่ละประเภทก็จะใช้วิธีทำความสะอาดที่แตกต่างกัน ดังนั้นในส่วนของวิธีทำความสะอาดสายนาฬิกา TimeThaibytag ขอแบ่งการทำความสะอาดสายนาฬิกาตามวัสดุของสายนาฬิกาเป็นดังนี้  วิธีทำความสะอาดนาฬิกาสายหนัง ชุบผ้าด้วยน้ำยาทำความสะอาดหนังโดยเฉพาะเพียงเล็กน้อย  ค่อย ๆ เช็ดสายหนังอย่างระมัดระวัง จากนั้นใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาด ๆ เพื่อขจัดสิ่งตกค้างอีกรอบ ซับสายหนังให้แห้งด้วยผ้าแห้งที่สะอาด วิธีทำความสะอาดนาฬิกาสายสเตนเลสและสายเงิน ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมสบู่สูตรอ่อนโยนแบบหมาด ๆ เช็ดที่สายสเตนเลส หรือสายเงิน ใช้แปรงสีฟันขนนุ่มขัดระหว่างข้อต่อและรอบ ๆ ซอกมุม ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาด ๆ เพื่อขจัดสิ่งที่ตกค้าง ซับสายสเตนเลสหรือสายเงินให้แห้งด้วยผ้าสะอาดที่ไม่เป็นขุย หากต้องการเพิ่มความเงางามให้สายนาฬิกา ให้ใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดกระจกเช็ดสายนาฬิกาเพิ่ม วิธีทำความสะอาดนาฬิกาสายฟลูออโรอีลาสโตเมอร์ (สายยางสังเคราะห์) ใช้สบู่เหลวเพียงเล็กน้อยบนสายฟลูออโรอีลาสโตเมอร์ ใช้มือถูสบู่วนไปมาอย่างเบามือ ล้างให้สะอาดด้วยน้ำ ใช้ผ้าซับสายและตั้งสายให้แห้งสนิท วิธีทำความสะอาดนาฬิกาสายผ้าไนลอน ซักสายผ้าไนลอนด้วยมือกับผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรอ่อนโยนได้เลย ล้างน้ำให้สะอาดเพื่อขจัดคราบที่ตกค้าง ปล่อยให้สายรัดแห้งสนิท อาจมีเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม Comfort เพิ่มเติมเพื่อรักษาเนื้อผ้าและคงสีสันที่เหมือนใหม่ร่วมด้วยก็ได้ ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำของวิธีทำความสะอาดนาฬิกาและวิธีทำความสะอาดสายนาฬิกาตามประเภทของสายนาฬิกาที่ TimeThaibytag ร้านขายนาฬิกามือสอง ได้รวบรวมมาให้ข้างต้นนี้รับรองว่าคุณจะสามารถมั่นใจไปอีกขั้นได้เลยว่านาฬิกาของคุณยังคงสะอาดและอยู่ในสภาพดีเหมือนใหม่อย่างแน่นอน  ข้อควรระวังของการทำความสะอาดนาฬิกาข้อมือ ถึงแม้การทำความสะอาดนาฬิกาข้อมือด้วยวิธีทำความสะอาดนาฬิกาที่ถูกต้องจะทำให้นาฬิกาข้อมือดูดีเหมือนใหม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังในระหว่างกระบวนการทำความสะอาดเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยข้อควรระวังเหล่านี้จะมีอะไรบ้างนั้นตามร้านขายนาฬิกามือสอง TimeThaibytag ไปดูเพิ่มเติมกันเลย  ✔ ตรวจสอบการกันน้ำของนาฬิกาก่อนทำความสะอาด เพื่อไม่ให้นาฬิกาได้รับความเสียหายในขณะการทำความสะอาด ✔ ถอดนาฬิกาออกจากข้อมือก่อนทำความสะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำและสารทำความสะอาดสร้างความเสียหายให้กับสายนาฬิกา ✔ หลีกเลี่ยงสารเคมีที่รุนแรงในการนำมาทำความสะอาดนาฬิกา เนื่องจากสารเคมีที่รุนแรง หรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ อาจทำให้ผิวของนาฬิกาและสายนาฬิกาเสียหายได้ ✔ หลีกเลี่ยงการจุ่มนาฬิกาโดยตรงลงในน้ำ เว้นแต่ว่านาฬิกานั้นได้รับการออกแบบมาสำหรับการใช้งานใต้น้ำโดยเฉพาะ ✔ ทำความสะอาดนาฬิกาด้วยความเบามือ  เมื่อทำความสะอาดนาฬิกาไม่ควรใช้แรงที่เยอะเพราะอาจทำให้หน้าปัดคริสตัลหรือตัวเรือนเป็นรอยได้ ✔ ระวังอย่าให้น้ำ หรือน้ำยาทำความสะอาดเข้าไปในเม็ดมะยม ในการทำความสะอาดรอบ ๆ เม็ดมะยม ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าขันเกลียวเม็ดมะยมแน่นแล้วเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าไปจนเกิดเป็นสนิมภายในได้ ซึ่ง TimeThaibytag ต้องขอบอกเลยว่าการทำความสะอาดนาฬิกาข้อมือไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้ามอีกต่อไป เพราะหากทำความสะอาดด้วยวิธีทำความสะอาดนาฬิกาที่ถูกวิธีก็จะเป็นวิธีในการรักษาความสมบูรณ์ของนาฬิกาได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสามารถรับประกันการทำงานของตัวนาฬิกาให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่องอีกทางหนึ่งด้วย และไม่ว่าคุณจะสวมนาฬิกาทุกวันหรือเฉพาะในโอกาสพิเศษ การสละเวลาในการบำรุงรักษาและทำความสะอาดนาฬิกาข้อมือด้วยการใช้วิธีทำความสะอาดนาฬิกาและวิธีทำความสะอาดสายนาฬิกาเป็นประจำจะช่วยให้คงความสวยงาม ฟังก์ชันการทำงาน และอายุการใช้งานที่ยืนยาวได้อย่างไร้ที่ติ

นาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่ 2023 อัปเดตล่าสุด

นาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่ 2023 ที่คุณห้ามพลาด

นาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่น่าลงทุน 2023 นาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่ 2023 รุ่นไหนน่าลงทุน? โรเล็กซ์รุ่นใหม่ล่าสุด 2023 รุ่นไหนดี? โดยปกติแบรนด์นาฬิกาหรู อย่าง “โรเล็กซ์ (Rolex)” นั้น มีการออกผลิตโรเล็กซ์รุ่นใหม่ ๆ ออกมาทุก ๆ ปีอยู่แล้ว และในนาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่ที่ออกมาบางรุ่นก็จะมีการอัปเดตชิ้นส่วนโดยการปรับเปลี่ยนจากรุ่นเดิม หรือบางรุ่นก็อาจจะเป็นรุ่นที่ผลิตขึ้นมาใหม่ แต่ถึงแม้จะเป็นรุ่นที่ออกมาใหม่ทุกเรือนเวลาก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์อยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของนาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่ ๆ คือการผสมผสานที่น่าดึงดูดขององค์ประกอบการออกแบบคลาสสิกและฟังก์ชันสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นความสง่างามอันประณีตของรุ่น Oyster Perpetual ความหรูหราแบบสปอร์ตของ Submariner หรือความน่าดึงดูดเหนือกาลเวลาของ Datejust นาฬิกาทุกเรือนของคอลเลกชันยอดฮิตที่สะท้อนถึงความทุ่มเทอันแน่วแน่ของโรเล็กซ์ในด้านรูปแบบและฟังก์ชัน หน้าปัดที่สวยงาม กรอบที่ประณีต และสายนาฬิกาที่ออกแบบอย่างพิถีพิถัน ล้วนมีส่วนช่วยให้มีความสวยงามโดยรวมที่สะดุดตาและใช้งานได้จริง เรียกได้ว่า นาฬิกาแต่ละเรือนได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้มาตรฐานสูงสุดด้านความแม่นยำและความทนทาน รวมถึงดีไซน์ที่มีความคลาสสิกเหนือกาลเวลา การผสมผสานระหว่างวัสดุล้ำสมัยและเทคนิคทางวิศวกรรมทำให้นาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่ ๆ เหล่านี้ไม่เพียงแต่มีความโดดเด่นเรื่องของเวลาที่แม่นยำเท่านั้น แต่ยังเปล่งประกายในฐานะมรดกตกทอดอันเป็นที่รักของคนรุ่นต่อ ๆ ไปได้อีกด้วย นาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่ 2023 มีอะไรบ้าง ไม่ว่าคุณจะเป็นนักสะสม ผู้ชื่นชอบ หรือผู้ที่กำลังมองหานาฬิกาแบรนด์หรูที่ดีที่สุด TimeThaibytag ขอบอกเลยว่านาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่ล่าสุด 2023 นี้ ต้องตอบโจทย์ความต้องการของเหล่าสาวกโรเล็กซ์ได้อย่างครอบคลุมแน่นอนเลยทีเดียว และสำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าโรเล็กซ์รุ่นใหม่ล่าสุดมีรุ่นไหนบ้าง? เราได้รวบรวมมาให้แล้วด้านล่างนี้ สำหรับนาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่ 2023 ก็จะมี 8 รุ่นด้วยกันดังนี้ Rolex Daytona Platinum 950 Rolex GMT-Master II  Rolex Day-Date 36 Rolex Yacht-Master 42  Rolex Explorer 40 Rolex Perpetual 1908  Rolex Sky-Dweller 2023 Rolex Oyster Perpetual Celebration  Rolex Daytona Platinum 950 เริ่มต้นกันที่นาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่ 2023 รุ่นแรก “Rolex Daytona Platinum 950” รุ่นนี้เป็นรุ่นอัปเกรดใหม่ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ให้กับคอลเลกชัน ‘Cosmograph Daytona’ ที่เคยเปิดตัวครั้งแรกในปี 1963 ซึ่งโรเล็กซ์รุ่นใหม่ Cosmograph Daytona 2023 จะมาพร้อมรหัส Ref.126500 ที่จะมาแทนที่รุ่นเดิม รวมถึงกลไกอัตโนมัติแบบใหม่ และรายละเอียดอื่น ๆ อย่าง หน้าปัดสีฟ้าไอซ์บลู หน้าปัดย่อยลายก้นหอยอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมขอบเซรามิกสีน้ำตาลเข้ม เป็นต้น ที่สำคัญนาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่ Daytona Platinum 950 นี้ ยังเป็นครั้งแรกที่โรเล็กซ์ใช้เคสหลังแบบเปลือยกับ Daytona อีกด้วย รายละเอียด Rolex Daytona Platinum 950 Ref.126500  ลักษณะตัวเรือน: Oyster, 40 มม. กระจก: Sapphire ป้องกันรอยขีดข่วน กลไก: อัตโนมัติ Chronograph Perpetual รหัส 4131 ขอบหน้าปัดนาฬิกา:  Monobloc Cerachrom สีน้ำตาลเข้มทำจากเซรามิก พร้อมพิมพ์ตัวเลขและข้อความ ความเที่ยงตรง: -2/+2 วินาที/วัน หลังจากงานประกอบตัวเรือน กำลังสำรอง: ประมาณ 72 ชั่วโมง Winding Crown: ระบบกันน้ำ Triplock สามชั้นแบบยึดด้วยสกรู การกันน้ำ: กันน้ำได้จนถึงระดับ 100 เมตร / 330 ฟุต Rolex GMT-Master II สำหรับนาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่ 2023 ก็ยังคงมี GMT-Master II รวมอยู่ในนาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่ล่าสุดด้วยเช่นกัน ซึ่งรุ่นนี้จะมาพร้อมรหัส Ref.126713GRNR และก็มีการอัปเกรดใหม่รวมถึงจุดที่น่าสนใจ อย่าง การเปลี่ยนตำแหน่งของมงกุฎเพื่อให้คนถนัดซ้ายใช้งานได้ง่ายขึ้น สำหรับรุ่นใหม่นี้มีขาย 2 รุ่น คือรุ่นเป็นทองคำ 18 กะรัตและรุ่น Yellow Rolesor ซึ่ง GMT-Master II ใหม่ 2023 นี้ มาพร้อมกับกรอบ Cerachrom ทูโทน (สีดำเทา) และสีทอง รายละเอียด Rolex GMT-Master II Ref.126713GRNR ลักษณะตัวเรือน: Oyster, 40 มม. กระจก: Sapphire ป้องกันรอยขีดข่วน  กลไก: อัตโนมัติ Perpetual รหัส 3285 ฟังก์ชัน GMT ขอบหน้าปัดนาฬิกา: แสดงเวลา 24 ชั่วโมง หมุนได้สองทิศทาง ขอบหน้าปัด Cerachrom จากเซรามิกคู่สีเทาและสีดำ, ตัวเลขและสัญลักษณ์แบบหล่อ ความเที่ยงตรง: -2/+2 วินาที/วัน หลังจากงานประกอบตัวเรือน กำลังสำรอง: ประมาณ 70 ชั่วโมง Winding Crown: ระบบกันน้ำ Triplock สามชั้นแบบยึดด้วยสกรู การกันน้ำ: กันน้ำได้จนถึงระดับ 100 เมตร / 330 ฟุต Rolex Day-Date 36 นาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่อีกหนึ่งรุ่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย ก็คือ Rolex Day-Date 36 ที่มาพร้อมหน้าปัดสุดหรูหราที่ทำจากอัญมณีสีสันสดใส สำหรับรุ่นที่ออกใหม่นี้จะใช้รหัส Ref.128345RBR ซึ่งจะมีให้เลือก 3 รุ่นด้วยกัน ก็คือตัวเรือน Everrose Gold 18 กะรัต พร้อมหน้าปัดอเวนจูรีนสีเขียว ประดับเพชร และพื้นผิวที่ตกผลึก ต่อมา Yellow Gold 18 กะรัต พร้อมหน้าปัดคาร์เนเลี่ยนสีส้ม สุดท้ายตัวเรือน White Gold 18 กะรัต พร้อมหน้าปัดสีเทอร์ควอยซ์ เรียกได้ว่ารุ่นนี้สวยหรูไม่มีที่ติเลยทีเดียว สาว ๆ คนไหนชอบความหรูหราแต่ยังคงความสดใส TimeThaibytag ขอแนะนำเลย   รายละเอียด Rolex Day-Date 36 Ref.128345RBR ลักษณะตัวเรือน: Oyster, 36 มม. กระจก: เลนส์ Cyclops ทำจาก Sapphire ป้องกันรอยขีดข่วนอยู่เหนือวันที่  กลไก: อัตโนมัติ Perpetual รหัส 3255  ขอบหน้าปัดนาฬิกา: ประดับเพชร ความเที่ยงตรง: -2/+2 วินาที/วัน หลังจากงานประกอบตัวเรือน กำลังสำรอง: ประมาณ 70 ชั่วโมง Winding Crown: ระบบกันน้ำ Twinlock สองชั้นแบบยึดด้วยสกรู การกันน้ำ: กันน้ำได้จนถึงระดับ 100 เมตร / 330 ฟุต Rolex Yacht-Master 42 Rolex Yacht-Master 42 โรเล็กซ์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้มาพร้อมกับตัวเรือนใหม่ที่ทําจากไทเทเนียม RLX ซึ่งเป็นไทเทเนียมอัลลอยเกรด 5 คัดเลือกเฉพาะโดย Rolex มีความเบาแต่ทนทานสูง ตัวหน้าปัดมีการผสมผสานระหว่างพื้นผิวด้านและขัดเงาทําให้หน้าปัดสีดำเข้มมีความลึกมากขึ้น และทําให้ขอบ Cerachrom โดดเด่นยิ่งขึ้น สำหรับนาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่รุ่นนี้ก็จะใช้รหัส Ref.226627 รายละเอียด Rolex Yacht-Master 42  Ref.226627 ลักษณะตัวเรือน: Oyster, ขนาด […]

นาฬิกาพันนาราย ประวัติความเป็นมาที่เหนือกาลเวลา

ประวัติความเป็นมานาฬิกาพันนาราย

นาฬิกาพันนาราย ประวัติศาสตร์ที่ไม่ธรรมดากว่าจะมาเป็นแบรนด์ดังระดับโลก นาฬิกาพันนาราย ประวัติความเป็นมาของแบรนด์ก่อนที่จะมาเป็นแบรนด์หรูระดับโลกนั้นมีที่มาอย่างไรบ้าง…? กว่าจะมาเป็นแบรนด์นาฬิกาที่ครองใจชาววินเทจได้อย่างทุกวันนี้ นาฬิกา Panerai ประวัติความเป็นมาสู่วิวัฒนาการแห่งความสง่างามถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา Panerai มือหนึ่ง หรือ Panerai มือสอง ก็ต่างเป็นที่ต้องการในตลาดรับซื้อนาฬิกาแบรนด์หรูเป็นอย่างมาก เนื่องจากนาฬิกาแต่ละคอลเลกชันมาพร้อมประวัตินาฬิกา Panerai ที่แตกต่างกัน จึงทำให้สามารถดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวของนาฬิกาจากทั่วโลกได้เป็นอย่างดี  ท่ามกลางนาฬิกาแบรนด์หรูมากมาย นาฬิกาพันนาราย ประวัติความเป็นมาของแบรนด์มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์ของอิตาลีและความเที่ยงตรงของสวิตเซอร์แลนด์ได้อย่างลงตัวที่สุด เนื่องจากอิตาลีขึ้นชื่อในด้านสไตล์และการออกแบบที่ไม่มีใครเทียบได้ ส่งผลให้นาฬิกามีความสวยงามและประณีต ในขณะเดียวกัน สวิตเซอร์แลนด์ได้รับการยกย่องว่าเป็นหัวใจของการผลิตนาฬิกาที่มีความเที่ยงตรงมาช้านาน  สำหรับใครที่อยากรู้ว่านาฬิกาพันนาราย ประวัติความเป็นมาแบบเจาะลึกเป็นอย่างไร…? TimeThai ขอพาไปดูเส้นทางของประวัติศาสตร์นี้พร้อม ๆ กัน  จุดเริ่มต้นของนาฬิกาพันนาราย ประวัติความเป็นมาในยุคแรก ประวัติศาสตร์ของแบรนด์นาฬิกาพันนาราย ประวัติความเป็นมาในยุคแรกเริ่มแรกมีจุดเริ่มต้นที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ซึ่งย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1860 Giovanni Panerai ได้เปิดร้านนาฬิกาเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง นอกจากจะเปิดร้านนาฬิกาแล้ว ยังได้ก่อตั้งโรงเรียนสอนทำนาฬิกาแห่งแรกของเมืองอีกด้วย ต่อมาในปี ค.ศ. 1890 Guido Panerai หลานของ Giovanni Panerai ได้เข้ามาดูแลธุรกิจต่อและย้ายร้านไปที่ Piazza San Giovanni จัตุรัสกลางเมืองในฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี  ซึ่งจุดเปลี่ยนสำหรับ Panerai เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1930 Panerai เมื่อพวกเขาเริ่มร่วมมือกับกองทัพเรืออิตาลีและกลายเป็นซัพพลายเออร์อย่างเป็นทางการสำหรับอุปกรณ์ดำน้ำที่มีความแม่นยำ มาตรวัดความลึก และเครื่องมืออื่น ๆ สำหรับการปฏิบัติการทางเรือ ซึ่งสิ่งที่สร้างประวัติศาสตร์ให้แบรนด์นาฬิกาพันนาราย ประวัติศาสตร์ในช่วงนี้ ก็คือ “RADIOMIR” สารเรืองแสงที่ทำจากเรเดียมซึ่งใช้กับหน้าปัดนาฬิกาเพื่อให้เรืองแสงได้ในที่มืด การใช้สารเรืองแสงจากเรเดียมถือเป็นนวัตกรรมใหม่และทำให้นาฬิกา Panerai มองเห็นได้อย่างชัดเจนและอ่านง่ายใต้น้ำ ทำให้เหมาะสำหรับนักดำน้ำทางทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นวัตกรรมของ Panerai ในการใช้เรเดียมกับนาฬิกาทำให้พวกเขาเป็นผู้บุกเบิกในด้านนี้ เนื่องจากนาฬิกา Panerai เป็นหนึ่งในแบรนด์แรก ๆ จากทั่วโลกที่ใช้สารเรืองแสงดังกล่าว นวัตกรรมนี้ไม่เพียงเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ Panerai ในฐานะซัพพลายเออร์ชั้นนำของอุปกรณ์ดำน้ำระดับทางการทหารเพียงเท่านั้น แต่ยังวางรากฐานสำหรับความสำเร็จในอนาคตในฐานะแบรนด์นาฬิกาสุดหรูอีกด้วย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นาฬิกาพันนาราย ประวัติความเป็นมาของแบรนด์ก่อนมีชื่อเสียงระดับโลก ในเส้นทางแห่งกาลเวลาเหล่านั้นทางแบรนด์ได้พัฒนาและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่รู้จักในด้านการออกแบบที่โดดเด่นและนาฬิกาคุณภาพสูง ประวัติของแบรนด์ หรือประวัตินาฬิกา Paneraในฐานะซัพพลายเออร์ของกองทัพเรืออิตาลีและนวัตกรรมที่ก้าวล้ำในยุคแรก ๆ นั้นมีส่วนสนับสนุนเอกลักษณ์และเรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ในโลกของนาฬิกาสุดหรูทั้งนาฬิกา Panerai รุ่นทั่วไปและนาฬิกา Panerai รุ่นนิยมได้เป็นอย่างดี  นาฬิกาพันนาราย ประวัติความเป็นมานาฬิกาเรือนแรกของแบรนด์ โดยนาฬิกาเรือนแรกแบรนด์ Panerai นั้นถือกำเนิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ. 1936 ซึ่งคือรุ่น RADIOMIR ที่ได้รับการร่วมมือในการออกแบบจากพาร์ตเนอร์อย่าง Rolex แม้แนวคิดของ RADIOMIR จะได้รับการจดสิทธิบัตรก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 1916 แต่  RADIOMIR ได้รับการพัฒนาขึ้นในปี ค.ศ. 1936 สำหรับการใช้งานในกองทัพเรืออิตาลี นาฬิการุ่นแรกนี้ถูกตั้งชื่อว่า “RADIOMIR” เนื่องจากใช้วัสดุเรืองแสงที่เรียกว่า RADIOMIR  หนึ่งในไฮไลต์หลักของ RADIOMIR คือการกันน้ำที่โดดเด่น ทำให้เป็นนาฬิกาที่เหมาะสำหรับกิจกรรมในน้ำลึก นาฬิกาได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงการอ่านค่าได้ง่ายแม้จะอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากลักษณะเฉพาะของนาฬิการุ่นนี้และการผลิตที่จำกัดสำหรับการใช้งานกับกองทัพ ทำให้นาฬิการุ่น RADIOMIR มีการผลิตเพียง 10 เรือนเท่านั้นและด้วยความที่รุ่นแรกของนาฬิกาพันนาราย ประวัติความเป็นมานั้นไม่ธรรมดาจึงเพิ่มเสน่ห์ให้กับนาฬิกาและทำให้เป็นที่ต้องการอย่างมากในหมู่นักสะสม ด้วยเหตุนี้ RADIOMIR จึงกลายเป็นนาฬิกาที่หายากเป็นพิเศษ และมูลค่าของมันในตลาดหรือแหล่งรับซื้อนาฬิกา Paneraiก็เพิ่มสูงขึ้นมากเลยทีเดียว ซึ่งรายละเอียดของ RADIOMIR รุ่นดั้งเดิมนั้น มีตัวเรือนเหล็กทรง Cushion มาพร้อมกับ Lug แบบเส้นลวดทำหน้าที่เป็นข้อต่อระหว่างตัวเรือนและสายข้อมือ เม็ดมะยมรูปทรงที่อันเป็นเอกลักษณ์ และหน้าปัดสีดำสุดเรียบง่าย มีตัวเลขและเครื่องหมายอารบิกที่อ่านค่าได้ชัดเจน รุ่นเริ่มต้นมีขนาดของตัวเรือนอยู่ที่ 47 มม. ถือว่าเป็นนาฬิกาที่มีขนาดใหญ่มากสำหรับยุคนั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป Panerai ก็ได้มีการพัฒนา ปรับแต่ง และปรับปรุงการออกแบบนาฬิกาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่การสร้างสรรค์นาฬิการุ่นอื่น ๆ ที่โดดเด่น เช่น Luminor และ Luminor Marina ที่ยังคงได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชื่นชอบนาฬิกาในปัจจุบัน นาฬิกาพันนาราย ประวัติความเป็นมาสู่แบรนด์นาฬิกาหรูลูกครึ่งอิตาลี-สวิส เมื่อที่ได้เปิดตัวนาฬิการุ่นแรก อย่าง RADIOMIR สำหรับการใช้งานในกองทัพอิตาลีไปแล้ว ในปี ค.ศ. 1997 Johann Rupert เจ้าของ Vendôme Group (ปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ Richemont Group) ได้เข้าซื้อกิจการของ Panerai เพราะเห็นถึงศักยภาพของแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากความสัมพันธ์ของแบรนด์นาฬิกาพันนาราย ประวัติความเป็นมาที่ได้ทำงานกับกองทัพเรืออิตาลีและการทำงานร่วมกับ Rolex หลังจากการควบรวมกิจการ ฐานการผลิตของ Panerai ถูกย้ายไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ การตัดสินใจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ในการทำให้ Panerai กลายเป็นแบรนด์นาฬิกาหรูที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตนาฬิกาของสวิสอย่างแท้จริง โดยการที่ Angelo Bonati อดีต CEO ของ Cartier ได้เข้ารับตำแหน่ง CEO ของ Officine Panerai ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงแบรนด์และยกระดับฐานะของแบรนด์ในตลาดนาฬิกาหรูได้เป็นอย่างดี โดยนาฬิกาของ Panerai ที่ผลิตก่อนปี 1997 หรือยุค “Post-Vendome” ได้รับความสนใจและความชื่นชมอย่างมากจากนักสะสม ความสัมพันธ์ของแบรนด์กับ Richemont และการมุ่งเน้นไปที่ความเป็นเลิศด้านการผลิตนาฬิกาของสวิส ทำให้ Panerai สามารถยกระดับการนำเสนอนาฬิกาของแบรนด์ได้ดีมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้นาฬิกาที่ผลิตในยุคนั้นเป็นที่ต้องการและน่าสะสม เรียกได้ว่าการเข้าซื้อกิจการโดย Richemont และการเปลี่ยนแปลงที่ตามมาของ Panerai ช่วยให้แบรนด์ก้าวไปสู่จุดสูงสุดในอุตสาหกรรมนาฬิกาหรู ปัจจุบัน Panerai ยังคงเป็นแบรนด์นาฬิกาหรูที่โดดเด่นและเป็นที่น่าสนใจในกลุ่มนักสะสม ด้วยการออกแบบที่โดดเด่น และความเชื่อมโยงที่หยั่งรากลึกกับมรดกทางประวัติศาสตร์กับกองทัพเรืออิตาลี นาฬิกาพันนาราย ประวัติความเป็นยุคใหม่สู่ยุคปัจจุบัน ในปี ค.ศ. 2001 Panerai ได้เปิดตัวในระดับสากล ถือเป็นยุคใหม่ของแบรนด์เมื่อได้ขยายฐานการผลิตออกไปนอกอิตาลี โดยทางแบรนด์ได้เลือกสโลแกนสำหรับแบรนด์ขึ้นใหม่ อย่าง “Laboratorio Di Ldee” ซึ่งเป็นภาษาอิตาลีเพื่อแสดงทิศทางและปรัชญาของแบรนด์ ต่อมาในปี ค.ศ. 2005 Panerai ได้เปิดตัวกลไก Manual P.2002 ที่มาพร้อมฟังก์ชัน GMT และการสำรองพลังงานที่ยาวนานถึง 8 วัน ถัดมาในปี ค.ศ. 2007 แบรนด์ได้เปิดตัวกลไกใหม่ที่ การเคลื่อนไหวแบบใหม่ที่มีฟังก์ชัน Tourbillon สามารถหมุนรอบได้ 1 ครั้งใน 30 วินาที ทำให้แตกต่างจาก Tourbillon ที่หมุนได้ 60 วินาทีแบบดั้งเดิม ปี ค.ศ. 2013 Panerai ได้เปิดตัวกลไก Automatic ตัวแรก P.9100 ซึ่งมีฟังก์ชัน Chronograph ที่มาพร้อมกับฟังก์ชัน Flyback และยังมีการเปิดตัวรุ่นพิเศษ P.9100/R ที่มีฟังก์ชัน Regatta Countdown เพิ่มเติมเข้ามา นอกจากนี้ Panerai ได้มีการเปิดตัว Luminor Submersible 1950 3 Days Automatic Bronzo อีกด้วย ในช่วงเวลาเหล่านั้นแบรนด์ Panerai ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในฐานะแบรนด์นาฬิกาหรูที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก พวกเขาเป็นที่รู้จักจากการออกแบบที่โดดเด่นและโดดเด่น นาฬิกาสปอร์ตที่แข็งแกร่ง และนวัตกรรมที่ต่อเนื่องทั้งในด้านการออกแบบและเทคโนโลยี ซึ่งในปี 2020 Panerai ได้มีการเปิดตัว Submersible eLAB-ID นาฬิการุ่นลิมิเต็ดที่มีตัวเรือนทำจากวัสดุรีไซเคิล แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาแบรนด์สู่ความยั่งยืน ตลอดประวัติศาสตร์ของนาฬิกาพนนาราย ประวัติความเป็น Panerai มาพร้อมกับเอกลักษณ์ของแบรนด์และหน้าปัดเรืองแสงที่เป็นหัวใจสำคัญของนาฬิกาหลาย ๆ รุ่น  เรียกได้ว่าประวัติศาสตร์ของแบรนด์นาฬิกาพันนาราย ประวัติความเป็นมาในยุคแรกนั้นน่าสนใจมาก ๆ การเดินทางของ Panerai จากเส้นทางนาฬิกา Panerai ประวัติศาสตร์กับกองทัพเรืออิตาลีสู่การเป็นแบรนด์นาฬิกาหรูที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกด้วยกลไกภายในของแบรนด์เอง สะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทในงานฝีมือ นวัตกรรม และการออกแบบที่โดดเด่น ประวัตินาฬิกา Panerai ความสำเร็จของแบรนด์ และการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดนาฬิกาหรู ได้เสริมความแข็งแกร่งในฐานะแบรนด์ที่โดดเด่นและเป็นที่ต้องการในหมู่ผู้ชื่นชอบนาฬิกาและนักสะสมทั่วโลกได้เป็นอย่างดี